เอกชนระบุการเมืองกระทบท่องเที่ยว-ธุรกิจ/"วิรุฬ"แนะทุกฝ่ายหันหน้าหากัน

          นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ขณะนี้ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมของไทยซบเซามากจากการเมืองไม่นิ่ง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจเข้ามาท่องเที่ยว โดย 6 เดือนแรกของปีนี้ มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นเพียง 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากต้นปีที่คาดว่าปีนี้จะเป็นปีทองของการท่องเที่ยว เพราะมีการประชุมระดับนานาชาติเข้ามาหลายครั้ง เช่น การประชุมของไลอ้อน ซึ่งมีคนเข้ามาประมาณ 25,000 คน และปลายปีไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนอีก 
          "ตอนนี้ห่วงมากที่สุดคือ ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะไม่มีการประชุมระดับนานาชาติเข้ามาในไทยเลย เพราะการเตรียมการประชุมต้องทำล่วงหน้า 2-3 ปี อย่างประชุมไลอ้อนปีนี้ คนไทยก็ไปประมูลแข่งขันมาเพื่อให้มาจัดที่นี่ แต่ขณะนี้สถานการณ์ในประเทศไม่ดี ทำให้คนขาดความเชื่อมั่น จึงอาจทำให้ขาดรายได้ที่จะได้ไปอีกมหาศาล" นายประกิจกล่าว 
          ด้านนายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่น อุตสาหกรรม จำกัด กล่าวว่า การเมืองไม่นิ่ง ราคาน้ำมันแพง เงินเฟ้อ-อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง จะทำให้ธุรกิจชะลอตัว โดยขณะนี้ยอมรับว่าการวางแผนทางธุรกิจในปี 52 ยังทำได้ยาก เพราะกังวลต่อราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มจะปรับเพิ่ม 
          อีกทั้งยังมีปัญหาการเมืองที่จะมีผลกระทบในวงกว้างต่อกำลังซื้อ และภาพลักษณ์ของประเทศอีก ซึ่งในภาพรวมยอดขายของบริษัทครึ่งปีแรกลดลง 3-5% จากต้นทุนราคาน้ำมันและราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น 
          ด้านนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 12.5-15% แม้ว่าความวุ่นวายทางการเมืองในปัจจุบันจะกระทบต่อการค้าและการส่งออกของไทยบ้าง เพราะทำให้นักธุรกิจขาดความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจ ทำให้ต่างประเทศชะลอการสั่งซื้อสินค้า ดังนั้นจึงต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ลดทิฐิมานะ และทำให้การเมืองมีเสถียรภาพโดยเร็ว และอยากให้เน้นที่การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจก่อนเป็นอันดับแรก