นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน มีมติให้เปลี่ยนแปลงอัตราอาการตอบโต้การทุ่มตลาด(เอดี) โดยจะไม่เก็บอากรเอดีอีกต่อไปสำหรับสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนและไม่เป็นม้วนของบริษัท พอสโก ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกจากเกาหลีที่ได้ยื่นคำขอให้เปิดทบทวนอัตราอากรเอดี จากปัจจุบันที่ไทยเรียกเก็บในอัตรา 13.96%
"ตามปกติหากมีการเรียกเก็บอากรเอดี ประเทศที่ถูกใช้มาตรการจะสามารถขอทบทวนได้เมื่อมีการใช้ครบทุกๆ ปี ซึ่งบริษัทจากเกาหลีก็ได้ขอให้ไทยทบทวน เพราะบริษัทไม่ได้ทุ่มตลาดแล้ว ซึ่งหลังจากที่กรมพิจารณาพบว่าไม่มีการทุ่มตลาดอีกต่อไป จึงได้มีมติให้ยกเลิกการใช้มาตรการเอดีสำหรับสินค้าจากบริษัทดังกล่าว" นายวิรุฬกล่าว
สำหรับการพิจารณาว่าจะต่ออายุมาตรการเอดีเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วนจาก 14 ประเทศ เช่น รัสเซีย ยูเครน ญี่ปุ่น เป็นต้น ที่ไทยได้เรียกเก็บอากรเอดีมาครบ 5 ปีแล้วนั้น ตามกระบวนการจะใช้เวลาในการทบทวน 1 ปี จึงจะทราบผลว่าจะต่ออายุมาตรการหรือไม่ หรือจะทบทวนการใช้มาตรการ ซึ่งจากนี้กรมการค้าต่างประเทศจะหารือทั้งกับผู้ผลิตและผู้ใช้ของไทย รวมทั้งผู้ผลิต ผู้ส่งออกของทั้ง 14 ประเทศ เพื่อหาข้อสรุปการใช้มาตรการดังกล่าว
ทั้งนี้ การเก็บเอดีเหล็กรีดร้อนจาก 14 ประเทศนี้ กลุ่มผู้ผลิตเหล็กของไทยได้เรียกร้องให้ต่ออายุการเก็บเอดีต่อไป เพราะยังพบว่ามีการทุ่มตลาดอยู่ ขณะที่ภาครัฐเห็นว่าปัจจุบันปัญหาเหล็กไม่ได้อยู่ที่การทุ่มตลาด เพราะความต้องการใช้เหล็กมีมากขึ้น ราคาแพงขึ้น และยังมีปัญหาการขาดแคลน ซึ่งต้องมีการนำเหตุผลต่างๆ มาประกอบการพิจารณาด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติให้ใช้มาตรการเรียกเก็บเอดีชั่วคราว สำหรับสินค้าบล็อกแก้วจากสาธารณรัฐเช็ก ตามคำร้องขอของอุตสาหกรรมภายในเป็นเวลา 4 เดือน เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่ามีการทุ่มตลาดจริง และจะขยายระยะเวลาการไต่สวนไปจนถึงเดือน ม.ค.
52 ก่อนที่จะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ
--อินโฟเควสท์ โดย พณฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--