ก.ล.ต.สหรัฐเดินหน้ากวาดล้างการปั่นหุ้น,แพร่ข่าวเท็จในตลาดหุ้นนิวยอร์ก

          คริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) เปิดเผยว่า SEC กำลังตรวจสอบหาข้อเท็จจริงที่ว่ามีบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปั่นหุ้น หลังจากราคาหุ้นเลห์แมน บราเธอร์ส หุ้นแฟนนี เม และหุ้นเฟรดดี แมค ทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
          "สำนักงานกำกับดูแลอุตสาหกรรมการเงิน (FINRA) ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบบริษัทโบรกเกอร์ภายใต้การควบคุมของ SEC กำลังตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้การเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ ขยายออกไปในวงกว้าง และตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ว่ามีบริษัทหลักทรัพย์มีการฝึกพนักงานให้ดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ วัตถุประสงค์ในการยื่นมือเข้าตรวจสอบครั้งนี้ก็เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่านักลงทุนจะได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้เกี่ยวกับบริษัทที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก" ประธาน SEC กล่าว
          นอกจากนี้ SEC กำลังแกะรอยหาตัวกลุ่มเทรดเดอร์ที่แสวงหากำไรอย่างผิดกฎหมาย โดยฉวยโอกาสที่สหรัฐเผชิญวิกฤตการณ์สินเชื่อด้วยการสร้างกระแสความตื่นตระหนกเกี่ยวกับเสถียรภาพของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงแบร์ สเติร์นส์ จนเป็นเหตุให้เกิดความปั่นป่วนในตลาด
          "การสร้างสถานการณ์ การปั่นหุ้น การให้ข้อมูลเท็จ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งน่ากังวลใจอย่างยิ่ง และคณะกรรมการคาดหวังว่าปฏิบัติการกวาดล้างพฤติกรรมเหล่านี้จะประสบความสำเร็จ  เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา FINRA ได้เข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงที่ว่า เฮดจ์ฟันด์และเทรดเดอร์บางกลุ่มได้แพร่ข่าวที่เป็นเท็จที่เกี่ยวกับแบร์ สเติร์นส์ และเลห์แมน บราเธอร์ส จนเป็นเหตุให้ราคาหุ้นของทั้ง 2 บริษัทร่วงลงอย่างหนัก" ฟ็อกซ์กล่าว
          เมื่อช่วงต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แบร์ สเติร์นส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 5 ของสหรัฐ ได้ตัดสินใจผ่าทางตันด้วยการขายกิจการให้เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค หนึ่งในวาณิชธนกิจที่ได้รับการยอมรับว่ามีงบดุลที่แข็งแกร่งในสุดในตลาดวอลล์สตรีท หลังจากแบร์ สเติร์น ขาดสภาพคล่องอย่างหนักจนต้องขอวงเงินกู้ฉุกเฉินจากธนาคารสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ข่าวลือต่างๆในตลาดยังส่งผลให้ลูกค้าแห่ถอนเงินสดออกไปเป็นจำนวนมาก สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน