นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กทำการสำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากยอดส่งออกทรุดตัวลง ซึ่งทำให้เกิดความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลจีนจะหันไปมุ่งเน้นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นอย่างยั่งยืน มากกว่าการควบคุมเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดการขยายตัวของเศรษฐกิจ จะขยายตัวขึ้นเพียง 10.3% ในไตรมาสที่ 2 หลังจากทะยานขึ้น 10.6% ในไตรมาสแรก และคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อ จะชะลอตัวลงแตะระดับ 7.3% ในเดือนมิ.ย. จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 7.7%
เมื่อไม่นานมานี้ นายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนให้คำมั่นสัญญาว่า รัฐบาลจีนจะระดับการขยายตัวของเศรษฐกิจให้ "รวดเร็วและแข็งแกร่ง" โดยจะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือภาคการผลิตภายในประเทศ อาทิ การชะลอความแข็งแกร่งของค่าเงินหยวนและชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
เผิง เหวินเฉิน นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์ส แคปิตอล ในฮ่องกง กล่าวว่า "คณะกรรมการกำหนดนโยบายของจีนแสดงความกังวลเรื่องการขยายตัวของเศรษฐกิจ และไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องเงินเฟ้อในลำดับต้นๆ เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลจีนไม่ต้องการให้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าระดับ 10%" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--