อินเทล คอร์ป รายงานว่า ผลกำไรไตรมาส 2 ปีนี้ของบริษัทมีการขยายตัวกว่า 25% อันเป็นผลมาจากยอดขายอันแข็งแกร่งของชิปสำหรับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ส่งผลให้บริษัททำผลงานได้ดีเกินกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นักลงทุนเชื่อว่า ผลกำไรอันน่าพอใจดังกล่าวส่งสัญญาณว่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะซบเซาจนส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายผู้บริโภคก็ตาม ขณะเดียวกัน พอล โอเทลลินี ซีอีโอของอินเทลเปิดเผยว่า ยอดขายชิปของอินเทลยังแข็งแกร่งในทุกตลาดทั่วโลก
หุ้นอินเทลปรับตัวสูงขึ้น 23 เซนต์ หรือ 1.1% แตะ 20.94 ดอลลาร์ในการซื้อขายหลังปิดตลาด โดยในช่วงเวลาทำการของตลาด หุ้นอินเทลปรับตัวสูงขึ้น 24 เซนต์ หรือ 1.2% แตะ 20.71 ดอลลาร์ ซึ่งนั่นเป็นช่วงเวลาก่อนที่อินเทลจะรายงานผลกำไรดังกล่าว
ในขณะเดียวกัน รายได้สุทธิของอินเทลอยู่ที่ระดับ 1.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 28 เซนต์ต่อหุ้น ในช่วงไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 28 มิ.ย. หรือมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 3 เซนต์ต่อหุ้น และปรับตัวสูงขึ้นกว่า 25% จากรายได้ของปีที่แล้วที่ 1.28 พันล้านหุ้น หรือ 22 เซนต์ต่อหุ้น
ทั้งนี้ อินเทลสามารถทำกำไรได้จากการจำหน่ายคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คและโปรเซสเซอร์ซึ่งเป็นที่ต้องการจากทั่วโลก สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--