ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมมิ.ย.ที่ 73.6 เพิ่มจาก 71.4 ในพ.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 16, 2008 11:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 73.6 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนพ.ค.51ที่อยู่ในระดับ 71.4 โดยได้รับผลดีจากยอดคำสั่งซื้อและยอดขายที่ดีขึ้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค และการเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูก ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้มียอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมที่เป็นเครื่องจักรกลการเกษตรเพิ่มขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นด้านต้นทุนการประกอบการยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า 
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 76.9 ในเดือนพ.ค.เป็นระดับ 77.0 ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกที่จะทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยได้รับผลกระทบจากความไม่มั่นใจในยอดคำสั่งซื้อ ยอดขายและปริมาณการผลิตที่จะได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่จะชะลอตัว ขณะที่ราคาขายสินค้ายังไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ทันตามต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูงในปัจจุบัน
นอกจากนี้ สถานการณ์ทางการเมืองยังเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันความเชื่อมั่นต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในด้านการขยายการลงทุนและการขยายกำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่อัตราการใช้กำลังการผลิตปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา รวมถึงความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นที่จะกระทบต่อต้นทุนการประกอบการของกิจการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs
"สภาวะแวดล้อมในการประกอบกิจการส่วนใหญ่ยังส่งผลกระทบต่อกิจการ ไม่ว่าจะเป็นด้านอัตราดอกเบี้ยที่มีทิศทางเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจโลกที่มีสัญญาณชะลอตัวมากขึ้น และผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงเพิ่มขึ้นมีเพียงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าและส่งผลดีต่อการส่งออก" นายสันติ ระบุ
ประธาน ส.อ.ท.ยังกล่าวถึงข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการต่อภาครัฐว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่าภาครัฐควรเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน เร่งแก้ไขปัญหาราคาน้ำมัน และหามาตรการช่วยเหลือด้านพลังงาน
รวมถึงมาตรการสนับสนุนพลังงานทดแทนแก่ผู้ประกอบการอย่างจริงจัง ควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ อย่าให้สูงเกินไปอันจะกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน ดูแลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศให้มีเสถียรภาพ และเร่งแก้ไขปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศในการลงทุน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ