ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แห่งสหรัฐ เรียกร้องสภาคองเกรสให้ผ่านร่างกฏหมายเพื่อกอบกู้สถานการณ์ด้านการเงินของแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค โดยเร็ว เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดปล่อยกู้จำนอง นอกจากนี้ บุชยังเรียกร้องให้สภาคองเกรสเห็นชอบเรื่องการยกเลิกคำสั่งห้ามขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่ง
แฟนนี เม และเฟรดดี แมค เป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) มีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้านและนักลงทุน
"แฟนนี เม และ เฟรดดี แมค เป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในระบบการเคหะของชาติ การใช้มาตรการช่วยเหลือบริษัททั้งสองแห่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสร้างเสถียรภาพในตลาดปล่อยกู้จำนอง" บุชกล่าวที่ทำเนียบขาว
ก่อนที่บุชจะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในอีก 6 เดือนข้างหน้านั้น บุชกำลังเผชิญกับความท้าทายที่จะนำพาเศรษฐกิจสหรัฐให้รอดพ้นจากวิกฤตราคาน้ำมันแพงและภาวะตกต่ำในตลาดที่อยู่อาศัย โดยเมื่อ 2 วันที่แล้ว คณะทำงานของบุชร้องขอสิทธิอำนาจจากสภาคองเกรสในการเข้าซื้อหุ้นของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค และเพิ่มวงเงินกู้ให้กับบริษัททั้งสอง
"แม้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงมากกว่าที่คิด แต่เราก็ตั้งใจจะเอาตัวรอดผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ เราคาดหวังว่ามาตรการพยุงกิจการแฟนนี เม และเฟรดดี แมคจะช่วยกอบกู้ความเชื่อมั่นของประชาชน และขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีแผนที่จะเทคโอเวอร์กิจการของทั้งสองบริษัทอย่างแน่นอน" บุชกล่าวที่ทำเนียบขาว
นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า เฟรดดี แมค อาจจะงดการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาสที่ 25 เซนต์ต่อหุ้น ส่วนแฟนนี เม ก็มีแนวโน้มที่จะงดการจ่ายเงินปันผลเช่นกัน หลังจากที่ขาดทุนรวมกว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปีที่แล้ว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--