ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อเสนอแนะความเห็นให้เน้นการดูแลส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ไม่ให้สูงมาก โดยอาจใช้แนวทางขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ขยับขึ้นดอกเบี้ยฝาก-คงดอกเบี้ยกู้ เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ซึ่งเป็นกรรมาธิการฯ ระบุในหนังสือดังกล่าวว่า แนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่ช่วยแก้ปัญหาเงินเฟ้อ เพราะเงินเฟ้อของไทยมีลักษณะไม่ปกติ คือเป็นภาวะที่ราคาสินค้าแพงจากน้ำมัน การขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้ทำให้สินค้าราคาลดลง ขณะที่รายได้ของประชาชนยังเท่าเดิม แต่การปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้กลับจะกระทบเงินลงทุนและที่สำคัญจะกลายเป็นการเพิ่มหนี้เสียในระบบด้วย เนื่องจากในความเป็นจริงธุรกิจทำได้ลำบากขึ้นและยอดขายลดลง แต่กลับต้องมาจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
หากธปท.ยืนยันว่าต้องการดูดซับสภาพคล่องในภาวะเงินเฟ้อที่ผิดปกติ ขอให้พิจารณาเรื่องสเปรดดอกเบี้ย ซึ่งขณะนี้ไทยมีสเปรดสูงกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่าการลดสเปรดแบบคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แต่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอย่างเหมาะสม จะไม่กระทบการลงทุนและผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนความกังวลว่าหนี้เสียในระบบจะมีมากนั้น ธปท.ควรส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการภายใน โดยอาจขายหนี้เสียไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่มีความชำนาญในการแก้ไขหนี้ โดยประสานงานไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อใช้มาตรการภาษีที่เอื้อต่อธนาคารพาณิชย์ โดยปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์ ในกรณีที่สเปรดลดลง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกทาง
--อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/ศศิธร/กษมาพร โทร.0-2253-5050 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--