ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ก.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นและราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงกว่า 5 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีท รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ถูกกดดันจากข้อมูลด้านการก่อสร้างที่อ่อนแอและตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นของสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นแตะระดับ 106.42 เยน/ดอลลาร์ จากวันพุธที่ระดับ 105.04 เยน/ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.0200 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0171 ฟรังค์/ดอลลาร์
ขณะที่ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 2.0007 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9989 ดอลลาร์/ปอนด์ และค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5852 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5823 ดอลลาร์/ยูโร
ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.7618 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7713 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.9706 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9742 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ อเมริกา กล่าวว่า "ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงหลุดจากระดับ 130 ดอลลาร์/บาร์เรล ช่วยคลายความวิตกกังวลด้านเงินเฟ้อ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าราคาน้ำมันที่แพงขึ้นและภาวะผันผวนในตลาดการเงินจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างหนัก"
"นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นกว่า 200 จุด ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับราคาน้ำมันที่ร่วงลงและรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทรายใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีท รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค" วูลฟอล์คกล่าว
หุ้นเจพีมอร์แกนเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ลดลง 53% เนื่องจากขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนอง แต่ตัวเลขดังกล่าวยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นเจพีมอร์แกนพุ่งขึ้น 13.5%
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการก่อสร้างบ้านและอพาร์ทเมนท์เดือนมิ.ย.ร่วงลง 9.1% แต่ตัวเลขการสร้างบ้านเดี่ยวลดลง 5.3% ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวสหรัฐที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานพุ่งขึ้น 18,000 ราย แตะระดับ 366,000 ราย
เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับ"ช่วงเวลาที่ยากลำบาก" และ เรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติอนุมัติข้อเสนอของกระทรวงการคลังในการสนับสนุนมาตรการพยุงกิจการแฟนนี เม และเฟรดดี แมค
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ยอมรับว่า อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้น ตลาดสินเชื่อที่ตึงตัว และเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น กำลังส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก และฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--