ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 12-13 มิ.ย.ในวันนี้ โดยเนื้อหาของรายงานระบุว่า คณะกรรมการบีโอเจแสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทั่วโลก และชี้ถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการทางการเงินเชิงรุกมากกว่านี้ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
"ความต้องการที่พุ่งขึ้นในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาพลังงานและวัตถุดิบพุ่งสูงขึ้น เราคาดว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อทั่วโลกจะพุ่งสูงขึ้นอีก นอกเสียจากว่าประเทศกลุ่มนี้จะใช้นโยบายการเงินที่เหมาะสม" รายงานการประชุมบีโอเจระบุ
รายงานยังกล่าวด้วยว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วโลกสูงขึ้น ซึ่งบีโอเจต้องจับตาดูตัวเลขค่าแรงอย่างใกล้ชิด เพราะแนวโน้มอัตราค่าแรงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบีโอเจบางคนมองว่า อัตราค่าแรงในญี่ปุ่นไม่สูงจนเกินไป และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้เงินเฟ้อที่เกิดจากราคาพลังงานและอาหารที่สูงขึ้น และมีคณะกรรมการบีโอเจบางคนระบุว่าบริษัทเอกชนหลายแห่งเริ่มผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปให้กับผู้บริโภค
คณะกรรมการทั้ง 7 ของบีโอเจมีความเห็นตรงกันว่า ญี่ปุ่นเผชิญความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมากขึ้นเนื่องจากราคาพลังงานและอาหารที่สูงขึ้น และบีโอเจจะจับตาดูพฤติกรรมของบริษัทเอกชนที่อาจจะผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปให้กับผู้บริโภค
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 12-13 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการบีโอเจมีมติให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% และตรึงดอกเบี้ยต่อจนเนื่องถึงการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14-15 ก.ค.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--