จีนเผยยอดรถค้างสต็อกพุ่งกว่า 50% แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี

ข่าวต่างประเทศ Friday July 18, 2008 13:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          จีนเผยยอดรถใหม่ที่ยังขายไม่ออกมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี อันเป็นผลมาจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์เพิ่มกำลังการผลิตในช่วงที่ยอดขายกำลังชะลอตัวลง
เฉิง เสี่ยวตง ผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจราคารถยนต์ของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) รายงานว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี จีนมียอดรถค้างสต็อก 170,000 คัน จาก 110,000 คันเมื่อสิ้นสุดปีที่แล้ว ในขณะที่ราคารถยนต์ปรับตัวลดลงราว 3% ในช่วงครึ่งแรกของปีเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ด้านยอดขายรถยนต์ช่วงครึ่งปีแรกก็ชะลอตัวลง เนื่องจากภัยธรรมชาติ ราคาอาหารที่พุ่งสูง รวมถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กดดันให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง
ทั้งนี้ ยอดรถค้างสต็อกที่เพิ่มขึ้นจะเป็นผลเสียอย่างร้ายแรงต่อ เจเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป และ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เนื่องจากทั้งสองบริษัทกำลังพยายามทำกำไรจากตลาดจีนเพื่อชดเชยยอดขายที่ลดลงในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ