จีนเผยยอดรถใหม่ที่ยังขายไม่ออกมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี อันเป็นผลมาจากการที่ผู้ผลิตรถยนต์เพิ่มกำลังการผลิตในช่วงที่ยอดขายกำลังชะลอตัวลง
เฉิง เสี่ยวตง ผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจราคารถยนต์ของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) รายงานว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี จีนมียอดรถค้างสต็อก 170,000 คัน จาก 110,000 คันเมื่อสิ้นสุดปีที่แล้ว ในขณะที่ราคารถยนต์ปรับตัวลดลงราว 3% ในช่วงครึ่งแรกของปีเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ด้านยอดขายรถยนต์ช่วงครึ่งปีแรกก็ชะลอตัวลง เนื่องจากภัยธรรมชาติ ราคาอาหารที่พุ่งสูง รวมถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กดดันให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง
ทั้งนี้ ยอดรถค้างสต็อกที่เพิ่มขึ้นจะเป็นผลเสียอย่างร้ายแรงต่อ เจเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป และ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป เนื่องจากทั้งสองบริษัทกำลังพยายามทำกำไรจากตลาดจีนเพื่อชดเชยยอดขายที่ลดลงในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--