แกรี่ สเทิร์น ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินเนโพลิสเตือนว่า เฟดไม่ควรรอให้ตลาดการเงินและตลาดที่อยู่อาศัยมีเสถียรภาพก่อนแล้วจึงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
"เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลง และสิ่งที่น่ากังวลใจตอนนี้คืออัตราเงินเฟ้อ เราไม่ควรรอให้ตลาดการเงินและตลาดที่อยู่อาศัยมีเสถียรภาพก่อนแล้วจึงขึ้นดอกเบี้ย เพราะการทำเช่นนั้นจะสายเกินแก้และจะทำให้การควบคุมเงินเฟ้อไม่ประสบความสำเร็จ เราต้องไม่ลืมว่าการดำเนินการของเราในวันนี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจในวันข้างหน้า" สเทิร์นกล่าว
การแสดงความคิดเห็นครั้งสุดของสเทิร์นทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ และมีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2548 โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้น และเป็นการปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7%
ก่อนหน้านี้ เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญกับ"ช่วงเวลาที่ยากลำบาก" และ เรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติอนุมัติข้อเสนอของกระทรวงการคลังในการสนับสนุนมาตรการพยุงกิจการแฟนนี เม และเฟรดดี แมค
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้ยอมรับว่า อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้น ตลาดสินเชื่อที่ตึงตัว และเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้น กำลังส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก และฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงมากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--