เดวิด บรูคส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทแกรนท์ ธอร์นตัน แอลแอลพี ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาชื่อดังของอังกฤษ คาดการณ์ว่า ธุรกรรมควบรวมกิจการและเข้าซื้อหุ้นของบริษัทเอกชนในอังกฤษมีแนวโน้มลดลงในอีก 12-15 เดือนข้างหน้า เนื่องจากวิกฤตการณ์ด้านสินเชื่อได้ฉุดรั้งเศรษฐกิจอังกฤษชะลอตัวลง
"หากเศรษฐกิจอังกฤษยังคงซบเซาเช่นนี้ต่อไป การทำธุรกรรมควบรวมกิจการและเข้าซื้อหุ้นคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะฟื้นตัวขึ้น" บรูคส์กล่าว
ค่าเงินปอนด์ร่วงลง 12.5% ในช่วง 12 เดือนที่แล้ว และภาวะตกต่ำของตลาดที่อยู่อาศัยได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอังกฤษ โดยนับตั้งแต่ต้นปี 2551 จนถึงขณะนี้ มูลค่าการควบรวมกิจการและเข้าซื้อหุ้นในอังกฤษทรุดฮวบลงถึง 50% แตะระดับ 3.72 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปี 2550
อย่างไรก็ตาม บรูคส์กล่าวว่า "การขยายตัวที่แข็งแกร่งของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และการลงทุนจากบริษัทต่างชาติจะช่วยชดเชยอัตราการควบรวมกิจการที่ลดลงได้ โดยคาดว่าบริษัทต่างชาติเหล่านี้จะเข้ามาซื้อสินทรัพย์ในอังกฤษมากขึ้น"
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา บังโค ซานตานเดร์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสเปน ตกลงเข้าซื้อหุ้นในบริษัทอัลไลอันซ์ แอนด์ เลสเตอร์ มูลค่า 1.26 พันล้านปอนด์ หรือ 2.6 พันล้านดอลลร์ ซึ่งต่ำกว่ามูลค่าตลาดที่คำนวณ ณ ช่วงปลายปีที่แล้ว ถึงครึ่งหนึ่ง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--