ธนาคารกลางฟิลิปปินส์อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่ปะทุขึ้นมาอีกระลอก หลังจากที่ธนาคารเพิ่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นเดือนที่สองติดต่อกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายอมันโด เททังโก ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์กล่าวว่า "ปัจจัยด้านภาวะเงินเฟ้อและและความเสี่ยงที่มีผลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อทำให้เราจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย"
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่ธนาคารได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสู่ระดับ 5.75% เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางการยังคงแสดงความกังวลว่าภาวะเงินเฟ้อจะปะทุขึ้นมาอีกระลอก ขณะที่ต้นทุนอาหารและเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการแพงขึ้นตามมา
ด้านนายไดวา กวินิกังโด รองผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์กล่าวว่า ธนาคารจะใช้มาตรการที่รวดเร็วและเด็ดขาดในการรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
"เราจำเป็นต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนมากขึ้นในยามที่ภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในขณะนี้" ลุซ โลเรนโซ นักวิเคราะห์จาก ATR-KimEng Securities Inc. ในกรุงมะนิลากล่าว "ธนาคารจะสามารถสกัดกั้นเงินเฟ้อได้ก็ต่อเมื่อมีการใช้มาตรการที่รุนแรงกว่าแต่ก่อน"
ทั้งนี้ ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งอัตราเงินเฟ้อในช่วงเวลาดังกล่าวไต่ระดับขึ้น 11.4% ซึ่งถือเป็นสถิติการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 14 ปี
นายเททังโกคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อของฟิลิปปินส์อาจถีบตัวสูงขึ้นแตะระดับ 12% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2537 และตัวเลขดังกล่าวจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 10% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--