ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขต ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงเดือนมิ.ย.จนถึงต้นเดือนก.ค.ชะลอตัวลง เนื่องจากผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอยหลังจากราคาพลังงานและอาหารปรับตัวสูงขึ้น
"รายงานจากเฟดทั้ง 12 เขตสะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงนับตั้งแต่มีการรายงานไปเมื่อครั้งก่อน โดยเศรษฐกิจใน 5 ภูมิภาคฝั่งตะวันออกซบเซาลง โดยเฟดสาขาชิคาโกรายงานว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคแห่งนี้ซบเซาลงอย่างมาก ส่วนเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัวปานกลาง" เฟดระบุในรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจที่รวบรวมได้ก่อนวันที่ 14 ก.ค.2551
เฟดสาขาเซนต์หลุยส์รายงานว่า เศรษฐกิจค่อนข้างทรงตัว ขณะที่เฟดสาขาซานฟรานซิสโกระบุว่า เศรษฐกิจแทบจะไม่มีการขยายตัว ส่วนเฟดสาขาคลีฟแลนด์และมินนิอะโพลิสรายงานว่า เศรษฐกิจขยายตัวเพียงเล็กน้อย และเฟดสาขาดัลลัสกล่าวว่า เศรษฐกิจทรงตัว
ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐนั้น ชะลอตัวลงทุกภูมิภาค แม้รัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงถึงการจ่ายเช็คคืนเงินภาษีให้กับประชาชนก็ตาม
"เฟดทุกภูมิภาครายงานตรงกันว่า เศรษฐกิจได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาเชื้อเพลิง วัตถุดิบ โลหะ อาหาร และเคมีภัณฑ์ แรงกดดันด้านเงินเฟ้อส่งผลจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภูมิภาคส่วนใหญ่ ขณะที่ตลาดแรงงานก็ซบเซาลงและตกอยู่ในภาวะขาดแคลนคนงานที่มีทักษะ โดยเฉพาะในภาคพลังงาน" เฟดระบุในรายงาน
รายงาน Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 5 ส.ค.นี้ โดยรายงานฉบับล่าสุดรวบรวมได้ก่อนวันที่ 14 ก.ค. ทั้งนี้ เฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--