ญี่ปุ่นเผยยอดส่งออกเดือนมิ.ย.ร่วงลงครั้งแรกในรอบ 4 ปี ส่วนยอดเกินดุลการค้าลดลง

ข่าวต่างประเทศ Thursday July 24, 2008 09:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย. 2551 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี โดยมีสาเหตุจากอุปสงค์ในสหรัฐและยุโรปที่ปรับตัวลดลง
กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกในเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.7% จากในระดับในปีก่อนหน้านี้ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3% ซึ่งตัวเลขส่งออกดังกล่าวถือเป็นสถิติการปรับตัวลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2546
ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลกอาจมีอัตราการขยายตัวที่หดตัวลงในไตรมาสล่าสุด จากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลง ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงที่ฉุดรั้งให้ทั่วโลกมีความต้องการรถยนต์และกล้องถ่ายรูปจากญี่ปุ่นน้อยลง
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งกล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะชะลอตัวลงอีกเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคและภาคเอกชนปรับลดการใช้จ่าย
"เราคาดว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศจะชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้" ฮิโรชิ ชิราอิชิ นักวิเคราะห์จากเลห์แมนบราเธอร์สในโตเกียวกล่าว
ยอดนำเข้าของญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันไต่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ยอดเกินดุลการค้าของญี่ปุ่นหดตัวลง 88.9% มาอยู่ที่ 1.386 แสนล้านเยน (1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดเกินดุลการค้าจะอยู่ที่ 5 แสนล้านเยน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09.09 น. ตามเวลาในกรุงโตเกียว เงินเยนเคลื่อนไหวที่ระดับ 107.92 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 107.93 เยนต่อดอลลาร์ก่อนที่ทางการจะรายงานยอดส่งออกประจำเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ยอดส่งออกไปยังสหรัฐในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 แล้ว เนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐลดลงใกล้แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2523 เช่นเดียวกับยอดส่งออกไปยังยุโรปที่ทรุดตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ