"โตโยต้า"มาแรงทำยอดขายทั่วโลกแซงหน้า GM ช่วงครึ่งปีแรก

          บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ทำยอดขายทั่วโลกแซงหน้าบริษัทเจนเนรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) ในช่วงครึ่งแรกของปีพ.ศ.2551 แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ในขณะนี้ว่าบริษัทรถรายใดจะทำยอดขายได้เป็นอันดับหนึ่งในช่วงปลายปีนี้
          ฮิเดกะ ฮอมมะ โฆษกโตโยต้าระบุว่า โตโยต้าทำยอดขายทั่วโลกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่ 4,817,941 คัน แซงหน้าจีเอ็มที่ทำยอดขายได้เพียง 277,532 คัน โดยโตโยต้ากล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัทขยายตัวขึ้น 2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่จีเอ็มระบุว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัทลดลง 3%
          นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ยอดขายรถยนต์ของโตโยต้าทะยานขึ้นแซงหน้ายอดขายของจีเอ็ม โดยในช่วงครึ่งแรกของปีพ.ศ.2550 โตโยต้าทำยอดขายแซงหน้าจีเอ็มอยู่ประมาณ 50,000 คัน แต่เมื่อพิจารณาจากยอดขายตลอดทั้งปี จีเอ็มยังคงแซงหน้าโตโยต้า และรั้งอันดับค่ายรถยนต์ที่ทำยอดขายสูงสุดของโลกเป็นปีที่ 77 
          อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา จีเอ็มประกาศระงับการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 86 ปี อีกทั้งจะลดเงินเดือนฝ่ายบริหารลงราว 20% และขายสินทรัพย์บางส่วน เพื่อระดมทุนให้ได้อย่างน้อย 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในอีก 18 เดือนข้างหน้า หลังจากยอดขายรถยนต์ของบริษัทร่วงลงและขาดทุนมาตลอด 3 ปี
           "การระงับจ่ายเงินปันผลและลดจำนวนพนักงานจะช่วยให้จีเอ็มประหยัดต้นทุนได้ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์/ปี นอกจากนี้ จีเอ็มยังวางแผนระดมทุนราว 4-7 พันล้านดอลลาร์ด้วยการขายสินทรัพย์บางส่วน กู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ และลดผลประโยชน์ที่ต้องจ่ายให้กับพนักงานที่เตรียมเกษียณ" จีเอ็มกล่าว 
          เมื่อไม่นานมานี้ ตลาดการเงินสหรัฐตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกเมื่อเมอร์ริล ลินช์ ระบุว่า จีเอ็ม จำเป็นต้องระดมทุนเป็นวงเงินสูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีความเป็นไปได้ที่จีเอ็มจะล้มละลาย หากตลาดรถยนต์ของสหรัฐร่วงลงอย่างต่อเนื่อง
          แต่ต่อมานักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนได้ออกมาแสดงความเห็นสวนทางกับเมอร์ริล ลินช์ ว่า บริษัทรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐที่ส่อเค้าว่าต้องยื่นเรื่องล้มละลายในอนาคตคือ ไครสเลอร์ ไม่ใช่ จีเอ็ม สำนักข่าวเอพีรายงาน