นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลยืนยันจะจัดสรรที่ราชพัสดุที่เรียกคืนจากหน่วยราชการ 1 ล้านไร่ให้กับกลุ่มเกษตรกรรายย่อยเท่านั้น และจะไม่สนับสนุนการจัดสรรให้กับกลุ่มธุรกิจด้านการเกษตร เนื่องจากมองว่ากลุ่มธุรกิจมีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้าถึงแหล่งทุนที่จะนำมาจัดหาที่ดินได้ไม่ยาก
รมว.คลัง ระบุว่า การจัดสรรที่ราชพัสดุให้เกษตรกรรายย่อยใช้ประโยชน์เพื่อสร้างโอกาสในการทำอาชีพเกษตรกรรมเพิ่มเติม จะช่วยสร้างประโยชน์โดยรวมให้กับประเทศชาติได้มากกว่า
"ถ้าหากจะเอาที่ดินไปให้กลุ่มธุรกิจการเกษตร ต้องถามว่าจำเป็นหรือไม่ กลุ่มธุรกิจนี้สามารถไปหาซื้อที่ดินที่อื่นๆ ได้อีกมาก โอกาสเข้าถึงแหล่งทุนก็ไม่ยาก แต่โอกาสของคนยากจนนั้นไม่มีเลย เพราะฉะนั้นต้องให้เกษตรกรรายย่อยได้มีอาชีพทำเกษตรกรรมอย่างแท้จริง รวมทั้งช่วยให้มีโอกาสด้านความรู้และพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต" นพ.สุรพงษ์ กล่าวในงานสัมมนา"หลอมรวมทุกกลไก 1 ล้านไร่มิติใหม่ที่ราชพัสดุ"
รมว.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ยังได้กำหนดค่าเช่าเพราะต้องวิเคราะห์เรื่องต้นทุนก่อน ไม่อยากให้ค่าเช่าถูกเกินไปอย่างไม่มีเหตุผล ขณะเดียวกันระยะเวลาเช่าก็คงไม่เกิน 30 ปี แต่สัญญาเช่าจะไม่ตกทอดไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน และจะยกเลิกสัญญาเช่าทันทีหากมีการนำไปให้คนอื่นเช่าช่วงต่อ
ขณะที่ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องวิเคราะห์ว่าที่ราชพัสดุแต่ละแห่งมีความเหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกพืชชนิดใด มีแหล่งน้ำมากน้อยเพียงใด การสร้างองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกร และการสร้างจิตสำนึกให้เกษตรกรรักและหวงแหนพื้นที่
ทั้งนี้ ตนเองยังมีความเห็นห่วงกรณีที่มีกลุ่มนายทุนต่างชาติเข้ากว้านซื้อที่ดินเพื่อทำการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืชอาหารหรือพืชพลังงาน หลังจากโลกเกิดภาวะวิกฤติด้านอาหารและพลังงาน นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงเรื่องการนำพื้นที่การเกษตรไปพัฒนาเพื่อกิจการประเภทอื่น เนื่องจากปัจจุบันมีพื้นที่การเกษตร 60% อยู่ในกรรมสิทธิ์ของนายทุน
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--