นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองในสหรัฐอาจลดลงในเดือนมิ.ย. ซึ่งส่งสัญญาณว่ามูลค่าของบ้านและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงกำลังส่งผลกระทบต่ออุปสงค์
ผลสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 77 ท่านซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐอาจลดลงแตะ 4.94 ล้านยูนิตในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ร่วงแตระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 ที่ 4.89 ล้านยูนิตในเดือนม.ค.และ เม.ย.ที่ผ่านมา
คริส โลว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก FTN Financial ในนิวยอร์ก กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัย์ที่ซบเซาอยู่แล้วยิ่งย่ำแย่ลงกว่าเดิมหลังจากที่สถาบันการเงินต่างใช้มาตรการควบคุมการปล่อยกู้ที่เข้มงวดกว่าเดิม ในขณะที่ดอกเบี้ยเงินกู้ก็พุ่งสูงขึ้น ในขณะเดียวกันจำนวนบ้านที่ถูกยึดก็เพิ่มขึ้นจนส่งผลให้มูลค่าบ้านลดลงอย่างต่อเนื่อง
ค่าเฉลี่ยของยอดขายบ้านมือสองซึ่งได้จากการสำรวจอยู่ในช่วง 4.79 - 5.1 ล้านยูนิต โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวอย่างเป็นทางการในเวลา 10.00 น.ของวันนี้ตามเวลาวอชิงตัน
ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐร่วงลงต่ำกว่าระดับ 5 ล้านยูนิตเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว และอยู่ในระดับดังกล่าวเป็นเวลา 4 เดือนจากทั้งหมด 5 เดือนตั้งแต่ต้นปี และลดลงราว 1 ใน 3 จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.25 ล้านยูนิตเมื่อเดือนก.ย. ปี 2548 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--