บีโอไอเล็งอนุมัติส่งเสริมการลงทุน 6 โครงการ เม็ดเงินกว่า 5.3 หมื่น ลบ.

          แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) คาดว่า ในการประชุมคณะกรรมการบีโอไอวันพรุ่งนี้(25 ก.ค.) จะมีการเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 8 โครงการ แต่จะมีโครงการที่ได้รับอนุมัติเพียง 6 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 5.3 หมื่นล้านบาท
          สำหรับโครงการขนาดใหญ่ทั้ง 6 โครงการ ได้แก่ โครงการขยายกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าของบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 38,267 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้า 700 เมกะวัตต์ จำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) โดยตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง
          โครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าหรือไอน้ำของ บมจ.ไออาร์พีซี(IRPC) เงินลงทุนทั้งสิ้น 7,036 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้า 228 เมกะวัตต์ ไอน้ำ 450 ตัน/ชั่วโมง ตั้งอยู่ที่เขตอุตสาหกรรมของบริษัทใน จ.ระยอง
          โครงการขยายกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าและไอน้ำของบริษัท พีทีที ยูทิลิตี้ จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,385 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้า 37 เมกกะวัตต์ ไอน้ำ 140 ตัน/ชั่วโมง ตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก จ.ระยอง 
          โครงการผลิตไบโอดีเซลของบริษัท กรีน อัลไลแอนซ์ จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,560 ล้านบาท กำลังการผลิตประมาณ 110 ล้านลิตร/ปี โดยใช้น้ำมันปาล์มดิบในประเทศปีละประมาณ 108,000 ตัน
          โครงการประกอบรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 500 ซี.ซี.ขึ้นไปของบริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิล(ไทยแลนด์) เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,560 ล้านบาท กำลังการผลิตประมาณ 54,000 คันต่อปี ตั้งโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี โดยจะผลิตเพื่อส่งออกทั้งหมด
          และโครงการผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นของบริษัท สตาร์ คอร์ จำกัด เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,240 ล้านบาท กำลังการผลิตประมาณ 2 แสนตัน/ปี เพื่อป้อนให้กลุ่มผู้ผลิตถังโลหะ และสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมท่อเหล็ก ตั้งโรงงานใน จ.ระยอง
          ส่วนอีก 2 โครงการที่คาดว่าจะไม่ได้รับอนุมัติ ได้แก่ บริษัท วัน-ทู-โก ขอส่งเสริมกิจการขนส่งทางอากาศด้วยเครื่องบิน MD 80 จำนวน 4 ลำ เงินลงทุน 841 ล้านบาท เนื่องจากใช้เครื่องบินเก่าอายุการใช้งาน 23-33 ปี
          และโครงการกิจการขนส่งน้ำมันทางท่อของบริษัท สุโขไท ปิโตรเลี่ยม จำกัด เนื่องจากโครงการนี้มีความเสี่ยงทางการเงินสูง เพราะเป็นการลงทุนจำนวนมาก แต่มีผู้สนับสนุนทางการเงินของโครงการไม่มีความชัดเจน และได้ยื่นขอรับส่งเสริมตั้งแต่ปี 48 โดยเป็นการวางท่อจากชายฝั่งอันดามันไปอ่าวไทย ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร เงินลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท