รมช.พาณิชย์ ขวางขึ้นราคาน้ำมันพืช, คน.เล็งถกเอกชนตรึงสินค้า 200 รายการ

          นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์  กล่าวถึงการปรับขึ้นราคาน้ำมันพืชอีกว่า กระทรวงพาณิชย์ต้องทบทวนการอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาดังกล่าวใหม่ เพราะสวนทางกับราคาน้ำมันตลาดโลก และ 6 มาตรการ 6 เดือน ของรัฐบาล ซึ่งได้ขอดูรายละเอียดการปรับขึ้นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว 
          ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายค้า เปิดเผยว่า ตั้งแต่สัปดาห์หน้าจะเรียกผู้ประกอบการสินค้า 200 รายการ ที่อยู่ในบัญชีติดตามดูแลของกรมฯ โดยจะเลือกกลุ่มสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันก่อน เช่น อาหารกึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่ม มาหารือถึงสถานการณ์ต้นทุนการผลิต เบื้องต้นจะขอความร่วมมือให้ชะลอการปรับขึ้นราคา หลังจากที่ประเมินแล้วว่า สินค้าหลายพันชนิดจะได้รับผลดีจากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็น 1 ใน 6 มาตรการของรัฐบาลที่ลดค่าครองชีพของประชาชน 
          "การเชิญผู้ประกอบการมาหารือก็เพื่อให้ทราบสถานการณ์การผลิตที่แท้จริง ทั้งราคาวัตถุดิบ รวมถึงต้นทุนอื่นๆ ซึ่งสถานการณ์ต้นทุนขณะนี้ กับเมื่อต้นปี ที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทำเรื่องขอปรับราคามายังกรมต่างกันมาก เชื่อว่า ส่วนใหญ่น่าจะตรึงราคาสินค้าต่อไปได้อย่างน้อยก็ภายใน 6 เดือนที่ 6 มาตรการรัฐบาลมีผลบังคับใช้" นายยรรยงกล่าว  
          สำหรับสินค้าที่มีปัญหาเรื่องต้นทุน กรมจะเข้าไปช่วยเหลือด้วยวิธีอื่นๆ เพราะไม่ต้องการใช้แนวทางแก้ไขปัญหาด้วยวิธีให้ปรับขึ้นราคาสินค้าเพียงอย่างเดียว โดยจะเข้าไปดูแลเรื่องโครงสร้างภาษีสินค้าให้ เช่น ลดภาษีสินค้าวัตถุดิบ การดูแลราคาพลังงาน ค่าไฟฟ้า เป็นต้น หรือผลักดันให้เอกชนผลิตสินค้าต้นทุนต่ำขึ้นมาขาย เหมือนกับสินค้าสินไทยสมัยก่อน เพราะแทนที่ภาครัฐจะดำเนินการเอง ก็ให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการแทน เชื่อว่าจะทำให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนที่ต่ำลง และประคองการปรับขึ้นราคาสินค้าได้บ้าง
          กรมฯ ยืนยันที่จะยึดหลัก 2 ประการในการดูแลสินค้า คือ ราคาน้ำมันและเงินเฟ้อ ในการพิจารณาราคาสินค้า หากสถานการณ์เข้าสู่ขั้นรุนแรง กรมฯ จะใช้มาตรการเพิ่มรายการสินค้าควบคุม เพื่อกำหนดราคาจำหน่ายสูงสุด หรือกำหนดอัตรากำไร เป็นต้น ขณะเดียวกัน จะใช้มาตรการช่วยเหลือผู้บริโภคเพิ่มเติม เช่น การใช้โครงการธงฟ้า 
          ส่วนการปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์มขวดอีกขวดละ 2.50 บาท มาอยู่ที่ขวดละ 50 บาทจากเดิม 47.50 บาท และน้ำมันถั่วเหลืองอีกขวดละ 4.5 บาท มาอยู่ที่ 54 บาทจากเดิม 49.50 บาทนั้น จนถึงขณะนี้ ผู้ผลิต ผู้ค้ายังต้องขายราคาเดิมก่อน เพราะการอนุมัติยังไม่มีผลบังคับใช้ตามที่กำหนด หรือภายในวันที่ 1 ส.ค.นี้ เพราะต้องรอนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์เห็นชอบก่อน