ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส หนุนดอลล์พุ่งเทียบเยน

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและฟรังค์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด อาทิ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับ 107.80 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 107.36 เยน/ดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0370 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0365 ฟรังค์/ดอลลาร์
          ค่าเงินปอนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.9904 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9862 ดอลลาร์/ปอนด์ และเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5712 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5675 ดอลลาร์/ยูโร
          ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.7425 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7432 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9575 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9590 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย 
           ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 0.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย เนื่องจากยอดสั่งซื้อรถยนต์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบเกือบ 1 ปี ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่นับรวมสินค้าด้านการขนส่ง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.0% โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนอาจลดลง 0.3% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ทรงตัวในเดือนพ.ค.
          นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนมิ.ย.ลดลง 0.6% แตะที่ระดับ 530,000 ยูนิต แต่ยังลดลงไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะร่วงลง 1.3% และมหาวิทยาลัยมิชิแกนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นของสหรัฐประจำเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 61.2 จุด สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 56.4 จุด
          ส่วนค่าเงินยูโรนั้น ยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานของสถาบัน Ifo ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงแตะระดับ 97.5 จุดในเดือนก.ค. จากระดับเดือนมิ.ย.ที่ 101.2 จุด ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือเป็นสถิติที่อ่อนตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2548 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นจะลดลงมาอยู่ที่ 100.1 จุด
          ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 8% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปี 
          อลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์กล่าวว่า "กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงอ่อนแอลงและคาดว่าจะอ่อนแอลงอีกจนถึงปลายปีนี้ เราเล็งเห็นว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้เงินเฟ้อภายในประเทศลดลงด้วย หากเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงอีกและตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธนาคารกลางก็อาจจะลดดอกเบี้ยลงอีกในวันข้างหน้า"