ญี่ปุ่นเผยอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.พุ่ง 4.1% แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี

          รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า อัตราว่างงานประจำเดือนมิ.ย.2551 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสองปี ขณะที่การเปิดรับพนักงานใหม่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากหลายบริษัทยังลังเลที่จะจ้างพนักงานใหม่เข้ามามากขึ้นในยามที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงสวนทางกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง
          อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นซึ่งพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี อาจส่งผลกระทบต่อตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 55% ของประเทศ ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก
          กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารชี้ว่า อัตราว่างงานของญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้น 4.1% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 4.0% ในเดือนพ.ค. เนื่องจากผู้ประกอบการปรับลดการจ้างงานเพราะวิตกกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อตัวเลขผลประกอบการของบริษัท           
          ตัวเลขว่างงานเดือนมิ.ย.สูงกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของธอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์คาดว่าจะอยู่ที่ 4.0%  และเป็นสถิติที่สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2549 ซึ่งพุ่งขึ้นแตะที่ 4.3%
          ทั้งนี้ รายงานตัวเลขจ้างงานที่มีขึ้นล่าสุดเป็นตัวยืนยันว่าสถานการณ์ในตลาดแรงงานโดยรวมของญี่ปุ่นยังไม่ดีขึ้น
          นอกจากนี้ ตัวเลขผู้มีงานทำในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง 400,000 ราย สู่ระดับ 64.51 ล้านราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากจำนวนของผู้ทำธุรกิจของครอบครัวลดลง เช่นเดียวกับพนักงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ร้านอาหาร โรงแรม และภาคการคมนาคมขนส่ง
         ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมการผลิตนั้นมีการปรับลดตำแหน่งงานลง 240,000 รายไปอยู่ที่ 11.42 ล้านรายจากปีก่อนหน้านี ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมโรงแรมและภัตตาคารปรับลดพนักงาน 160,000 ราย มาอยู่ที่ 332,000 ราย
          ส่วนภาคการก่อสร้างปรับลดการจ้างงานลง 60,000 ไปอยู่ที่ 5.43 ล้านราย เพราะผลกระทบจากการกำหนดข้อบังคับด้านการก่อสร้างที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นเมื่อปีที่ผ่านประกอบกับความวิตกกังวลต่อความต้องการบ้านที่ลดลงและราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น
          ด้านตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ทรงตัวในระดับเดิมเท่ากับปีที่แล้วที่ 55.14 ล้านราย