IMF เตือนวิกฤตซับไพรม์สหรัฐส่งผลตลาดการเงินทั่วโลกปั่นป่วนและมีความเสี่ยงมากขึ้น

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 29, 2008 10:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐได้สร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินทั่วโลก อีกทั้งยังส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ในภาวะ "เปราะบาง" และทำให้ระบบการเงินตกอยู่ในความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย
"ปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ลุกลามไปทั่วทั้งระบบ ซึ่งเป็นผลมาจากราคาที่อยู่อาศัยและภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำลง ที่ผ่านมานั้นธนาคารหลายแห่งต้องระดมทุน และมีการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี จนถึงขณะนี้ไอเอ็มเอฟคาดว่ายอดขาดทุนของสถาบันการเงินในสหรัฐจะยังคงอยู่ที่ 9.45 แสนล้านดอลลาร์ เหมือนกับที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย." ไอเอ็มเอฟกล่าวในรายงานว่า Global Financial Stability Report
"แต่ภาวะตึงเครียดที่เกิดขึ้นครั้งใหม่นี้ทำให้การระดมทุนทำได้ยากลำบากขึ้น และอาจส่งผลกระทบในด้านลบต่อระบบการธนาคารและภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในระบบการเงินด้วย" ไอเอ็มเอฟกล่าว
ราคาที่อยู่อาศัยที่ชะลอตัวลงในหลายประเทศ รวมถึงประเทศในแถบยุโรป ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าอาจมีสถาบันการเงินในตลาดปล่อยกู้จำนอง บริษัทก่อสร้าง และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ขาดทุนเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ ความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อราคาหุ้นของบริษัทแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) และมีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้าน ร่วงลงอย่างหนัก
ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงแตะระดับ 4.1% ในปี 2551 จากปีที่แล้วที่ระดับ 5% และชะลอตัวลงแตะระดับ 3.9% ในปี 2552 สำนักข่าวซินหัวรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ