ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย และราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก นอกจากนี้ การที่เมอร์ริล ลินช์ รายงานว่า บริษัทได้ปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีและระดมทุนเพิ่มด้วยการออกหุ้นใหม่ นับเป็นอีกปัจจัยที่หนุนดอลลาร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 108.09 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 107.44 เยน/ดอลลาร์ และปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.0446 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0340 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.5587 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5745 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.9793 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9940 ดอลลาร์/ปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7393 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7450 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.9517 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9572 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
เมอร์ริล ลินช์ เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ในบัญชีลง 5.7 พันล้านดอลลาร์และเพิ่มทุน 8.5 พันล้านดอลลาร์ด้วยการขายหุ้นใหม่ อีกทั้งจะขายหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันบางส่วน และยกเลิกธุรกิจเฮดจ์ฟันด์ที่เกี่ยวข้องกับการออกตราสารหนี้ ซึ่งธุรกิจทั้งสองส่วนนี้ได้รับผลกระทบหนักสุดจากวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า บริษัท เทมาเส็ค โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่ง (SWF) ของสิงคโปร์ ได้เข้าซื้อหุ้นมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ในเมอร์ริล ลินช์
บ๊อบ ซิงห์ นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราต่างประเทศจาก แบงค์ ออฟ อเมริกา กล่าวว่า "ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นหลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระของสหรัฐ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 51.9 จุด จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 51 จุด สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลงแตะระดับ 50 จุด
"ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาดีเกินคาดในเดือนก.ค.ได้รับการขานรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนทั้งในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กและตลาดหุ้นนิวยอร์ก และช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคการเงินของสหรัฐ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยหนุนดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นด้วย" นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ อเมริกากล่าว
ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 2.54 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 122.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.เป็นต้นมา หลังจากประธานกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันอยู่ในระดับที่ "ผิดปกติ" พร้อมส่งสัญญาณว่าโอเปคจะไม่ลดการผลิตเพื่อให้มั่นใจว่าอุปทานน้ำมันมีเพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนี้ ประธานโอเปคกล่าวว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานเช่นนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อทั้งกลุ่มผู้ผลิตและผู้ใช้น้ำมัน
สถาบันวิจัยตลาด GfK คาดการณ์ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนีอาจร่วงแตะ 2.1 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2546 โดยลดลงจาก 3.6 จุดในเดือนก.ค. และอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 3.5 จุด
นอกจากนี้ ทางการเยอรมนีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีในเดือนก.ค.ยังคงอยู่ที่ระดับ 3.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--