เจดี พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ บริษัทให้คำปรึกษาด้านยานยนต์ชั้นนำของโลกคาดการณ์ว่า ยอดขายยานยนต์ในสหรัฐจะลดลงในเดือนก.ค.แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 15 ปี โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงและสภาพเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา
นอกจากนั้นนักวิเคราะห์ยังเชื่อว่ามีโอกาสเพียงน้อยนิดที่อุตสาหกรรมยานยนต์จะฟื้นตัวได้ภายใน 12 เดือนต่อจากนี้
"ไม่มีปัจจัยใดบ่งชี้เลยว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะฟื้นตัวในช่วงครึงหลังของปีนี้" จอร์จ ไพพาส นักวิเคราะห์จาก ฟอร์ด มอเตอร์ กล่าว
ในขณะเดียวกัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากเว็บไซต์ Edmunds.com ก็คาดการณ์ว่ายอดขายยานยนต์ในสหรัฐจะร่วงลงราว 3.3% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดย ฮอนด้า มอเตอร์ จะเป็นผู้ผลิตรายใหญ่รายเดียวที่มียอดขายเพิ่มขึ้น เนื่องจากยอดขายรถยนต์ขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมันมีการขยายตัวอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นฮอนด้าอาจแซงหน้าฟอร์ดขึ้นไปรั้งตำแหน่งผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 เมื่อพิจารณาจากยอดขายในสหรัฐ รองจากเจเนอรัล มอเตอร์ และ โตโยต้า มอเตอร์
ก่อนหน้านี้ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ทำยอดขายทั่วโลกแซงหน้าบริษัทเจนเนรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) ในช่วงครึ่งแรกของปีพ.ศ.2551 แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ในขณะนี้ว่าบริษัทรถรายใดจะทำยอดขายได้เป็นอันดับหนึ่งในช่วงปลายปีนี้
ฮิเดกะ ฮอมมะ โฆษกโตโยต้าระบุว่า โตโยต้าทำยอดขายทั่วโลกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ที่ 4,817,941 คัน แซงหน้าจีเอ็มที่ทำยอดขายได้เพียง 277,532 คัน โดยโตโยต้ากล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัทขยายตัวขึ้น 2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่จีเอ็มระบุว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัทลดลง 3%
นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ยอดขายรถยนต์ของโตโยต้าทะยานขึ้นแซงหน้ายอดขายของจีเอ็ม โดยในช่วงครึ่งแรกของปีพ.ศ.2550 โตโยต้าทำยอดขายแซงหน้าจีเอ็มอยู่ประมาณ 50,000 คัน แต่เมื่อพิจารณาจากยอดขายตลอดทั้งปี จีเอ็มยังคงแซงหน้าโตโยต้า และรั้งอันดับค่ายรถยนต์ที่ทำยอดขายสูงสุดของโลกเป็นปีที่ 77 สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--