นักวิเคราะห์เชื่อ"วีซ่า-มาสเตอร์การ์ด"ไม่เจ็บตัวจากปัญหาผิดนัดชำระหนี้เหมือน"เอเม็กซ์"

ข่าวต่างประเทศ Wednesday July 30, 2008 12:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          วีซ่า อิงค์ และ มาสเตอร์การ์ด อิงค์ สองบริษัทบัตรเครดิตยักษ์ใหญ่ของโลก อาจหลีกเลี่ยงผลพวงของภาวะเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวที่จะกระทบต่อผลกำไรของบริษัทได้ หลังจากที่ปัจจัยดังกล่าวได้สร้างความบอบช้ำให้กับ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส มาแล้ว
วีซ่า และ มาสเตอร์การ์ด จัดเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อโยกย้ายค่าใช้จ่ายระหว่างสถาบันการเงินต่างๆ โดยปล่อยให้ธนาคารเป็นผู้แบกรับความเสี่ยงในการเพิ่มวงเงินกู้ให้แก่ผู้บริโภค โดยนักวิเคราะห์คาดว่า วีซ่า ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้ และมาสเตอร์การ์ด ซึ่งจะรายงานผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ ไม่น่าจะได้รับความเสียหายจากการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้กำไรไตรมาสสองของอเมริกัน เอ็กซ์เพรสร่วงลง 37%
เดวิด ฮอชสติม นักวิเคราะห์จากบัคกิงแฮม รีเสิร์ช กรุ๊ป ในนิวยอร์ก กล่าวว่า วีซ่าและมาสเตอร์การ์ดไม่มีความเสี่ยงด้านสินเชื่อ โดยปัจจุบันมีผู้บริโภคทั่วโลกใช้บัตรเครดิตและเดบิตในการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และบริษัททั้งสองก็อยู่ตรงจุดกึ่งกลางของกระแสนิยมนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นับตั้งแต่ที่วีซ่าได้เสนอขายหุ้นใหม่แก่นักลงทุนเป็นครั้งแรก หรือ IPO เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หุ้นของบริษัทก็ทะยานขึ้น 73% ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ด้านหุ้นของมาสเตอร์การ์ดก็เดินหน้าถึง 70% ในปีที่ผ่านมา เนื่องจากทั้งสองบริษัทได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจบัตรเครดิตที่เฟื่องฟูนอกสหรัฐ และการที่ผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้เงินสดซื้อสินค้าและบริการไปเป็นบัตร ขณะที่หุ้นของ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส ร่วงลง 36% เนื่องจากอัตราการว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งราคาอาหารและพลังงานที่แพงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคขัดสนและไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้คืนได้
นักวิเคราะห์ 10 รายที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า มาสเตอร์การ์ดอาจมีกำไรในไตรมาสสองเพิ่มขึ้น 34% เป็น 261.7 ล้านดอลลาร์ ขณะที่วีซ่าน่าจะทำกำไรได้ 397.2 ล้านดอลลาร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ