อาร์เซลอร์มิตตาลเผยกำไรไตรมาส 2 พุ่งกว่า 2 เท่าหลังดีมานด์ขยายตัว

          อาร์เซลอร์มิตตาล (ArcelorMittal) บริษัทเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยกำไรไตรมาส 2 ว่า ขยายตัวขึ้นกว่า 2 เท่าหลังจากที่บริษัทได้ขึ้นราคาเหล็กตอบรับดีมานด์ที่สูงขึ้น โดยรายได้สุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นแตะ 5.84 พันล้านดอลลาร์ หรือ 4.19 เซนต์ต่อหุ้น จากระดับ 2.72 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.97 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว นับเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์จากการสำรวจของบลูมเบิร์กได้คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 4.11 พันล้านดอลลาร์
          ลักษมี มิตตาล ซีอีโอของอาร์เซลอร์ กล่าวว่า ประเทศต่างๆอาจจะเผชิญกับภาวะขาดแคลนเหล็กเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นและสภาพตลาดที่ขาดแคลนการลงทุน ในขณะที่มีการซื้อขายโลหะในระดับราคาที่ต่ำกว่าเดิม 
          รายงานของสตีล บิสิเนส บรีฟฟิ่ง ระบุว่า ราคาเหล็กรีดร้อนทั่วโลกพุ่งขึ้นถึง 66% แล้วในปีนี้
          อาร์เซลอร์เปิดเผยไว้เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ว่า บริษัทได้ขึ้นราคาเหล็กที่จำหน่ายในยุโรปเนื่องจากความต้องการที่สดใส และอาจจะมีการขึ้นราคาในไตรมาสต่อๆไป เพราะอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัว
          อาร์เซลอร์กำลังพยายามที่จะเพิ่มการผลิตวัตถุดิบ โดยราคาถ่านหินโค้กและสินแร่เหล็ก ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการผลิตเหล็กนั้น มีราคาสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เพราะความต้องการที่สูงขึ้นมากจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น จีน
          อาร์เซลอร์ได้ซื้อกิจการในแอฟริกา รัสเซีย และสหรัฐในปีที่แล้ว เพื่อที่จะเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองในการผลิตถ่านหินให้สูงกว่า 15% และเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทก็ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทแมคอาเธอร์ โคล ผู้ผลิตถ่านหินของออสเตรเลียเป็น 20% อีกทั้งยังได้ตกลงซื้อกิจการบริษัทผู้ผลิตถ่านหิน 2 รายในเวสท์ เวอร์จิเนีย คือ คอนเซ็ปต์ กรุ๊ป และมิด โวล โคล กรุ๊ป ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา