นักวิเคราะห์คาดยอดขายมือถือ"โมโตโรล่า"ร่วงหนักใน Q2 หลังถูก"แอลจี"แย่งส่วนแบ่งตลาด

          นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า โมโตโรลา อิงค์ บริษัทผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของโลกที่คร่ำหวอดอยู่ในอุตสาหกรรมมานานนับ 10 ปี อาจขาดทุนต่อเนื่องในไตรมาสสอง ซึ่งจะเป็นการขาดทุนติดต่อกัน 4 ไตรมาส หลังจากสูญเสียส่วนแบ่งตลาดจำนวนมากให้กับบริษัทคู่แข่งอย่าง แอลจี อิเล็กทรอนิกส์ อิงค์
          โมโตโรล่าเตรียมเปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดทำการ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ยอดขายไตรมาสสองของโมโตโรล่าอาจร่วงลง 26% แตะระดับ 26.1 ล้านเครื่อง ซึ่งจะต่ำกว่ายอดขายของซัมซุง อิเล็กทรอนิก ส่วนยอดขายของแอลจีพุ่งขึ้น 45% แตะระดับ 27.7 ล้านเครื่องในไตรมาสสอง
          นักวิเคราะห์คาดว่า สถานะการเป็นบริษัทผลิตมือถือรายใหญ่ของโมโตโรล่าร่วงลงไปอยู่อันดับ 4 และอาจสั่นคลอนความน่าเชื่อถือของนายเกร็ก บราวน์ ซีอีโอโมโตโรล่า ซึ่งจนถึงขณะนี้โมโตโรลายังไม่ได้เปิดตัวโทรศัพท์รุ่น touch-screen ในสหรัฐเพื่อแข่งชันกับโทรศัพท์รุ่น Voyager ของแอลจี และโทรศัพท์ iPhone ของแอปเปิล อิงค์
          "ผมคาดว่ายอดขายของซัมซุงจะแซงหน้าโมโตโรล่า แต่คาดว่ายอดขายของแอลจีจะมาเป็นอันดับหนึ่ง และยอดขายของโมโตโรล่าจะร่วงลงหนักกว่าที่คาดการณ์กันไว้" พาโบล เปเรซ-เฟอร์นานเดซ นักวิเคราะห์จากโกลบอล คราวน์ แคปิตอล ในซานฟรานซิสโกกล่าว
          เปเรซ-เฟอร์นานเดซ คาดว่าส่วนแบ่งตลาดของโมโตโรล่าจะอยู่ที่ 8.5% ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของแอลจีจะอยู่ที่ 9.1% โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้วโมโตโรล่าครองส่วนแบ่งสูงถึง 22% ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Strategy Analytics ในบอสตันคาดว่า ยอดขายตลอดปี 2551 ของโมโตโรล่าจะตามหลังแอลจีอยู่เป็นจำนวนมาก
          นอกจากนี้ คาดว่ายอดขาดทุนสุทธิของโมโตโรล่าในไตรมาสสองจะอยู่ที่ 76.1 ล้านดอลลาร์ หรือ 4 เซนต์ต่อหุ้น จากปีที่แล้วที่ 28 ล้านดอลลาร์ หรือ 1 เซนต์ต่อหุ้น สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน