"นิพัทธ"แนะตั้งเจ้าภาพประสานนโยบายคลัง/หนุนใช้ทุนสำรองฯลงทุนพัฒนาปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 30, 2008 13:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายนิพัทธ พุกกะณะสุต ที่ปรึกษา รมว.คลัง ในฐานะอดีตผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวในการสัมมนา"อนาคตเศรษฐกิจไทยภายใต้ภูมิทัศน์ใหม่ทางเศรษฐกิจ"ว่า สิ่งจำเป็นที่ต้องทำต่อไปเพื่อให้มีกรอบการพัฒนาประเทศที่ชัดเจนในอนาคต ควรมีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อประสานนโยบายการเงินการคลังของประเทศให้มีเสถียรภาพ เป็นเอกภาพ และมีความสอดรับกัน ซึ่งถือเป็นความจำเป็นที่จะต้องมีการสร้างองค์กรนี้ขึ้นเพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ ควรจะต้องมีหน่วยงานในการจัดทำแผนการใช้เงินของประเทศ เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายและการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต เนื่องจากการลงทุนในโครงการต่างๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญในภาวะที่ประเทศไทยมีแหล่งเงินทุนในประเทศไม่เพียงพอ และยังจำเป็นต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศเป็นหลัก
นายนิพัทธ มองว่า การมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับที่สูงไม่ได้เป็นเครื่องชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศจะดี แต่กลับมองว่าการมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงนั้นเป็นการขาดโอกาสของการลงทุนที่มีประสิทธิผล ดังนั้น จึงควรนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่มีอยู่ไปใช้ในการสร้างความเจริญให้แก่ประเทศให้มากกว่านี้
“การที่มีเงินสำรองสูงเกินไปถือว่าขาดช่องทางการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูง มีทุนสำรองสูงแปลว่าเราใช้เงินไม่เป็น ดังนั้นเราควรต้องนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ การทำอย่างไรให้ทุนสำรองที่มีอยู่มาสร้างความเจริญมั่งคั่งให้แก่ประเทศ มากกว่าการลงทุนให้ต่างชาติได้กำไร เป็นเรื่องที่แบงค์ชาติและกระทรวงการคลังต้องตอบโจทย์นี้" นายนิพัทธ กล่าว
นายนิพัทธ ยังกล่าวด้วยว่า ที่หลายฝ่ายมองว่าต้องให้การเมืองนิ่งจึงจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้นั้นไม่จริงเสมอไป เพราะจะเห็นได้จากปัจจุบันที่สถานการณ์การเมืองในประเทศยังมีความวุ่นวายอยู่นี้ แต่เศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้ 5-6% ซึ่งเป็นเพราะพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยยังแข็งแกร่งพอที่จะรองรับกับวิกฤตการณ์ทางการเมืองได้ดี
อย่างไรก็ดี เห็นว่าการเมืองไทยอาจจะต้องมีการปรับปรุงให้อยู่ในกฎกติกามากขึ้น และให้เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตยชัดเจนกว่านี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ