บริษัท ยูโรเปียน แอโรนอติก ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ (อีเอดีเอส) บริษัทผลิตเครื่องบินรายใหญ่สุดของโลกและเป็นบริษัทแม่ของแอร์บัส เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสองที่ต่ำเกินคาด เพราะได้รับผลกระทบจากการส่งมอบเครื่องบินแอร์บัส A380 ล่าช้า และจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง
ทั้งนี้ รายได้สุทธิไตรมาสสองของอีเอดีเอสเพิ่มขึ้นแตะระดับ 118 ล้านยูโร (183 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 15 เซนต์ต่อหุ้น จากระดับ 81 ล้านยูโร หรือ 10 เซนต์ต่อหุ้น แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะอยู่ที่ 388 ล้านยูโร ขณะที่ยอดขายของอีเอดีเอสเพิ่มขึ้น 5% แตะระดับ 9.89 พันล้านยูโร
อีเอดีเอส ซึ่งกำลังดำเนินการลดจำนวนพนักงานลง 10,000 ตำแหน่งและเจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์วัตถุดิบ ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายลดการใช้จ่ายลงเกือบ 50% เหลือเพียง 3.1 พันล้านยูโร (4.82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตั้งแต่ปีพ.ศ.2553 เป็นต้นไป ทั้งนี้ การส่งมอบเครื่องบินแอร์บัส A380 ล่าช้ากว่ากำหนดถึง 2 ปี ส่งผลให้บริษัทต้องแบกรับต้นทุนเป็นวงเงินสูงถึง 715 ล้านยูโรในไตรมาสสอง และการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงหั่นกำไรของบริษัทร่วงลงอีก 700 ล้านยูโร
หลุยส์ กัลลอยส์ ซีอีโอของอีเอดีเอสกล่าวว่า "การประคองสถานะของอีเอดีเอสให้สามารถแข่งขันต่อไปได้นั้น บริษัทจำเป็นต้องใช้ยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงให้ได้ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงส่งผลต่อยอดขายเครื่องบินแอร์บัสทุกลำเมื่อมีการคำนวณกลับมาเป็นสกุลเงินยูโร"
ในงานแสดงเครื่องบิน Farnborough International Air Show ซึ่งจัดขึ้นที่อังกฤษเมื่อเร็วๆนี้ แอร์บัสคว้ายอดสั่งซื้อเครื่องบินกว่า 60% คิดเป็นมูลค่า 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์ แซงหน้าบริษัทโบอิ้ง โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ แอร์บัสได้ส่งมอบเครื่องบินแล้ว 245 ลำ ซึ่งมากกว่าโบอิ้งเช่นกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--