FED ขยายเวลาอนุมัติเงินกู้ให้สถาบันการเงินจนถึง 30 ม.ค.ปีหน้า มุ่งคลายวิกฤตสินเชื่อ

          ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขยายระยะเวลาการอนุมัติวงเงินกู้พิเศษสำหรับสถาบันการเงินออกไปจนถึงวันที่ 30 ม.ค.ปีหน้า เพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงินให้แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวงเงินกู้ที่อนุมัติครั้งหลังสุดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกได้แก่วงเงินกู้ฉุกเฉินที่ให้กับบริษัทหลักทรัพย์ในขั้นไพรมารีดีเลอร์ และอีกประเภทคือการให้เงินกู้โดยนำหลักทรัพย์อ้างอิงตราสารหนี้มาค้ำประกัน 
          เฟดระบุว่า การขยายวงเงินกู้ครั้งล่าสุดมีเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมั่นด้านสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงินของหรัฐ เพราะที่ผ่านมามีการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากวิกฤตสินเชื่อ และเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าตลาดเงินจะไม่เผชิญภาวะสภาพคล่องตึงตัว อันเนื่องมาจากการเพิ่มการตั้งสำรองหนี้สูญและการขาดทุน
          ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เมอร์ริล ลินช์ เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ในบัญชีลง 5.7 พันล้านดอลลาร์และเพิ่มทุน 8.5 พันล้านดอลลาร์ด้วยการขายหุ้นใหม่ อีกทั้งจะขายหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันบางส่วน และยกเลิกธุรกิจเฮดจ์ฟันด์ที่เกี่ยวข้องกับการออกตราสารหนี้ ซึ่งธุรกิจทั้งสองส่วนนี้ได้รับผลกระทบหนักสุดจากวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อเมื่อปีที่แล้ว 
          แม้เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด พยายามอย่างยิ่งยวดที่จะคลี่คลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ แต่เบอร์นันเก้ก็ยอมรับว่า ตลาดการเงินและตลาดสินเชื่อของสหรัฐอยู่ในภาวะที่เปราะบางมาก และอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะกลับคืนสู่ภาวะปกติได้ และในรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจเมื่อไม่นานมานี้ เฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วงเดือนมิ.ย.จนถึงต้นเดือนก.ค.ชะลอตัวลง เนื่องจากผู้บริโภคลดการจับจ่ายใช้สอยหลังจากราคาพลังงานและอาหารปรับตัวสูงขึ้น
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ข่าวที่เฟดขยายระยะเวลาการอนุมัติเงินกู้พิเศษให้กับสถาบันการเงินครั้งล่าสุดนี้ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่หนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 186.13 จุด หรือ 1.63% แตะระดับ 11,583.69 จุด และหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและเยน