ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบเยน,ยูโร หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจถดถอยเร็วกว่าที่ประเมินไว้ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด และตัวเลขว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับ 107.83 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 108.10 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0471 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0484 ฟรังค์/ดอลลาร์
          ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5597 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5576 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ทรงตัวอยู่ที่ 1.9817 ดอลลาร์/ปอนด์
          ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งขึ้นแตะระดับ 0.7341 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7337 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.9418 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9440 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย 
          อาร์ชาฟ ไลดี นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจากบริษัทซีเอ็มซี มาร์เก็ต กล่าวว่า นักลงทุนเทขายดอลลาร์หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจีดีพีไตรมาสสองขยายตัวเพียง 1.9% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน ไฟแนนเชียล/ไอเอฟอาร์คาดว่าจะขยายตัวขึ้น 2.4% ต่อปี ซึ่งจะสูงขึ้นกว่า 2 เท่าจากไตรมาสแรก
          นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอเข้ารับสวัสดิการในระหว่างว่างงานพุ่งขึ้น 44,000 ราย แตะระดับ 448,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ค.จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่ระดับ 404,000 ราย ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี
          ขณะที่ค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือ ยูโรสแตท เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรกระโดดขึ้นแตะที่ 4.1% ในเดือนก.ค. จากระดับ 4.0% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2535 และอยู่เหนือระดับเป้าหมาย 2.0% ของธนาคารกลางยุโรป
          เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ธนาคารกลางยุโรปได้ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 4.25% ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้สู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นจากราคาอาหารและเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูง ทั้งนี้ ข้อมูลครั้งล่าสุดจากยูโรสแตททำให้เกิดการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อในการประชุมครั้งหน้า
          ค่าเงินปอนด์ทรงตัวเพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาลงอย่างหนัก โดยเนชั่นไวด์ เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษประจำเดือนก.ค.ร่วงลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน และร่วงลงเกือบ 10% จากปีก่อนหน้านี้ 
          ผลสำรวจของเนชั่นไวด์เป็นอีกหนึ่งข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงสัปดาห์ที่เลวร้ายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่เมื่อต้นสัปดาห์ธนาคารกลางอังกฤษรายงานงาสยอดอนุมัติสินเชื่อจำนองบ้านเดือนมิ.ย.ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 36,000 ราย ซึ่งปรับตัวลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2536
          นอกจากนี้ สถาบัน Gfk NOP ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเศรษฐกิจของอังกฤษระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2517 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง