"เฮนรี พอลสัน"คาดศก.สหรัฐยังขยายตัวได้ดีปีนี้ แต่ยอมรับตลาดที่อยู่อาศัยยังเป็นปัญหาใหญ่

          เฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.68 แสนล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลนำมาใช้เมื่อไม่นานนี้ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในประเทศให้ขยายตัวขึ้นอย่างทันท่วงที และคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตต่อไปได้อีกจนถึงช่วงครึ่งปีหลัง
          "ผมคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวในระดับปานกลางจนถึงปลายปีนี้ แม้ตลาดที่อยู่อาศัยยังคงทรุดตัวลงก็ตาม ผมมั่นใจว่าเศรษฐกิจของเรายังไปได้สวยแม้จะติดขัดอยู่บ้างในบางด้าน อย่างไรก็ตาม ผมยอมรับว่าปัญหาในตลาดที่อยู่อาศัยเป็นความท้าทายที่สำคัญและยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจฉุดรั้งเศรษฐกิจให้เผชิญช่วงขาลง" พอลสันกล่าว
          พอลสันระบุว่า สหรัฐจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดที่อยู่อาศัยและตลาดสินเชื่อให้ผ่านพ้นไปให้ได้ หลังจากสถาบันการเงินหลายแห่งขาดทุนและยอดการผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้นจนสร้างความปั่นป่วนไปทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ ซึ่งหากสหรัฐแก้ไขเรื่องนี้ได้ ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นในปีหน้าและปีถัดไป
          "เช็คคืนเงินภาษีที่เราแจกจ่ายให้กับหลายล้านครัวเรือนในสหรัฐตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ชาวอเมริกันนำเงินดังกล่าวไปใช้จ่าย ขณะที่บริษัทเอกชนมีการลงทุนเพิ่มขึ้น และกำไรจากการส่งออกในปีนี้ยังคงไปได้ดี" พอลสันกล่าว
          การแสดงความคิดเห็นของพอลสันมีขึ้นก่อนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสสองขยายตัวเพียง 1.9% ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะขยายตัว 2.3% และสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มถดถอยเร็วกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ในเบื้องต้น
          นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กไม่ได้ขานรับการแสดงความคิดเห็นของพอลสันที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังขยายตัวระดับปานกลางในปีนี้ แต่กลับไปให้น้ำหนักกับตัวเลขจีดีพีไตรมาสสองที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 205.67 จุด หรือ 1.78% แตะระดับ 11,378.02 จุดเมื่อคืนนี้ สำนักข่าวเอพีรายงาน