นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ประจำเดือก.ค.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐเตรียมเปิดเผยในคืนนี้ จะร่วงลง 75,000 อัตรา ซึ่งจะเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 7 เดือน หลังจากทรุดตัวลง 62,000 อัตราในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี โดยข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญความเสี่ยงที่รุนแรงขึ้น
"การจ้างงานที่ลดน้อยลง ประกอบกับราคาที่อยู่อาศัยที่ตกต่ำลง การกำหนดกฎข้อบังคับด้านการปล่อยกู้ให้เข้มงวดขึ้น และราคาพลังงานที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ล้วนแล้วแต่ส่งกระทบต่อความสามารถในการใช้จ่ายของชาวอเมริกัน นอกจากนี้ การที่บริษัทสตาร์บัคส์ และยูเอแอล ประกาศว่าจะลดจำนวนพนักงาน ยิ่งทำตอกย้ำว่าวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐลุกลามไปไกลกว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างและภาคการผลิต สถานการณ์เหล่านี้ส่งผลให้ตัวเลขจ้างงานสหรัฐลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับผู้บริโภค" ลินเซย์ ปีก์ซา นักวิเคราะห์จากเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียล ในกรุงนิวยอร์กกล่าว
ก่อนหน้านี้ ADP ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มการจ้างงาน 9,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะลดลง 50,000-60,000 ตำแหน่ง แต่ที่ผ่านมานั้น ตัวเลขจ้างงานซึ่งสำรวจโดย ADP มันแตกต่างจากตัวเลขจ้างงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐ
ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเป็นหนึ่งในข้อมูลเศรษฐกิจที่นักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กให้ความสนใจ เพราะตัวเลขดังกล่าวเป็นมาตรวัดสุขภาพของเศรษฐกิจสหรัฐได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูสำนักงานจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐที่จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในวันศุกร์เช่นกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--