BMW ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในปีนี้ หลังยอดขายในสหรัฐร่วง-น้ำมันพุ่ง

          Bayerische Motoren Werke AG บริษัทผลิตรถยนต์หรูรายใหญ่ที่สุดของโลก รายงานผลประกอบการณ์ไตรมาส 2 ที่ลดลงเกินคาด พร้อมปรับลดคาดการณ์ผลกำไรของทั้งปีลง อันเป็นผลมาจากยอดขายในสหรัฐที่ลดลง, เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น  
          รายได้สุทธิของ BMW ลดลงแตะ 507 ล้านยูโร (790 ล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 2 จาก 753 ล้านยูโรเมื่อปีที่แล้ว โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ารายได้สุทธิของบริษัทจะอยู่ที่ 703 ล้านยูโร ในขณะที่ยอดขายลดลงแตะ 1.46 หมื่นล้านยูโร จาก 1.47 หมื่นล้านยูโร
          "ความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมยานยนต์ร่วงลงอย่างหนักตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา" BMW กล่าว โดยก่อนหน้านี้ เดมเลอร์ เอจี (Daimler AG) บริษัทผลิตรถยนต์หรูรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลกก็เพิ่งปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการณ์ลง หลังยอดขายให้สหรัฐที่ซบเซาฉุดผลกำไรให้ลดลง  
          ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐซึ่งเป็นตลาดหลักของ BMW ลดลงกว่า 10% ในปีนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงรวมถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวกดดันให้ผู้บริโภคต้องลดการใช้จ่ายลง
          "ในปีหน้าสถานการณ์ก็คงไม่ง่ายไปกว่าตอนนี้ เนื่องจากยังมีปัญหาเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศรวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์" จอร์จ สเตอร์เซอร์ นักวิเคราะห์จาก UniCredit Markets & Investment Banking ในมิวนิค กล่าว 
          มาร์ค แฮสซิงเกอร์ โฆษกของ BMW กล่าวว่า ทางบริษัทจำเป็นต้องปรับลดคาดการณ์ผลกำไรก่อนหักภาษีของปีนี้ลงจากเดิมที่คาดไว้ว่าจะได้ราว 3.78 พันล้านยูโร แต่คาดว่าผลประกอบการณ์จะเพิ่มขึ้นจากยอดขายรถยนต์ขนาดเล็กและรถยนต์อเนกประสงค์ในยุโรปตะวันออกและเอเชีย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน