นิสสัน มอเตอร์ บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่าผลกำไรไตรมาสแรกร่วงลงกว่า 43% หลังเงินเยนแข็งค่า ในขณะที่ยอดขายรถกระบะในสหรัฐก็ลดลงเพราะราคาน้ำมันพุ่ง
โดยรายได้สุทธิของนิสสันอยู่ที่ 5.28 หมื่นล้านเยน (492 ล้านดอลลาร์) หรือ 12.96 เยนต่อหุ้นในไตรมาสแรก (เม.ย.-มิ.ย.) เทียบกับ 9.23 หมื่นล้านเยน หรือ 22.39 เยนต่อหุ้นเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 6.2 หมื่นล้านเยน ในขณะที่ยอดขายก็ลดลง 4.1% เหลือ 2.35 ล้านล้านเยน
นิสสันเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 29% ในปีนี้ส่งผลให้ยอดขายรถกระบะรุ่นไททันและรุ่นอื่นๆในสหรัฐลดลงกว่า 20% ในไตรมาสดังกล่าว ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้คาร์ลอส โกส์น ซีอีโอของบริษัทต้องตัดสินใจลดกำลังการผลิตและลดพนักงานในสหรัฐลง ในขณะเดียวกันเงินเยนที่แข็งค่าว่า 16% ในไตรมาสดังกล่าวก็ทำให้รายได้ที่ได้จากต่างประเทศลดลงเมื่อเปลี่ยนเป็นเงินเยน
"เศรษฐกิจโลกกำลังซบเซาแต่ต้นทุนต่างๆกลับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้นิสสันและผู้ผลิตยานยนต์รายอื่นมีกำไรลดลง" เอ็ดวิน เมอร์เนอร์ ประธานบริษัท Atlantis Investment Research Corp. ในโตเกียว กล่าว "นักลงทุนส่วนมากไม่คิดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นจนกว่าจะสิ้นสุดปีงบประมาณในเดือนมี.ค.2554"
นอกจากนั้นนิสสันยังปรับลดคาดการณ์รายได้สุทธิของปีงบประมาณสิ้นสุดที่เดือนมี.ค.ปีหน้าลง 30% เหลือ 3.4 แสนล้านเยน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--