กระทรวงเศรษฐกิจเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า เกาหลีใต้มียอดขาดดุลการค้าในเดือนก.ค.สูงถึง 1.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขาดดุลติดต่อกันสองเดือน เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ ยอดนำเข้าเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 47.3% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.30 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 37.1% แตะระดับ 4.14 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ยอดขาดดุลการค้าเกาหลีใต้อยู่ที่ระดับ 430 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.ที่เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้า 880 ล้านดอลลาร์ และในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เกาหลีใต้ขาดดุลการค้ามูลค่า 6.1 พันล้านดอลลาร์
กระทรวงเศรษฐกิจกล่าวว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ค.สะท้อนให้เห็นว่าราคานำเข้าน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน พุ่งขึ้นสูงถึง 90% 66% และ 84% ตามลำดับ นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังขาดดุลการค้าเนื่องจากนำเข้าสินค้าด้านการเกษตรเพิ่มขึ้น 39% และรถยนต์เพิ่มขึ้น 38%
นายชุง แจ-ฮอน ผู้อำนวยการสำนักงานการค้าในสังกัดกระทรวงเศรษฐกิจเกาหลีใต้กล่าวว่า "รัฐบาลคาดการณ์ว่าจะมียอดเกินดุลการค้าในเดือนก.ค. แต่ตัวเลขออกมากลับขาดุล ซึ่งเป็นผลมาจากยอดส่งออกรถยนต์และเซมิคอนดัคเตอร์ที่ต่ำเกินคาด ซึ่งทำให้เราพลาดเป้าหมาย การมียอดเกินดุลการค้าเป็นเป้าหมายหลักของเรา เพราะเกาหลีใต้พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก"
"อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าจะมียอดเกินดุลการค้าในเร็วๆนี้หากราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่าระดับ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล" นาแจ-ฮอนกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--