นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมช.คลัง กล่าวว่า ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลกับคณะที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจจะทำงานกันเป็นทีมในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจให้สอดคล้องกัน เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้นักลงทุนไทยไม่หันไปลงทุนต่างประเทศ โดยจะเน้นการใช้นโยบายการเงิน การคลัง และพลังงาน รวมทั้ง ใช้นโยบายเพิ่มโอกาสประชาชน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตไทยได้ถึง 8% ให้ได้ในที่สุด
พร้อมมองว่า ในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจให้เจริญเติบโตไม่จำเป็นต้องกำหนดกรอบหนี้สาธารณะไว้ไม่เกิน 30-40% ต่อจีดีพี เพราะประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น อังกฤษ และ อิตาลี ก็มีสัดส่วนหนี้สาธารณะมากกว่า 100-120% ต่อจีดีพี และหนี้สาธารณะของไทยส่วนใหญ่อยู่ในรูปเงินบาทและเป็นเพียงหนี้ทางบัญชีเท่านั้น ที่สำคัญไทยเป็นประเทศเล็ก ยังต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตมากกว่านี้
นายสุชาติ เชื่อว่าทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีนำโดย นายวีรพงษ์ รามางกูร กับทีมรัฐมนตรีเศรษฐกิจของ นพ.สุรพงษ์ จะไม่มีปัญหาในการทำงาน หรือแม้แต่ปัญหาการทำงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เกี่ยวกับนโยบายการเงินในเรื่องอัตราดอกเบี้ย เพราะที่ผ่านมานายวีรพงษ์ เป็นนักเศรษฐกิจมือ 1 ไม่เคยให้ความเห็นทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาด
สำหรับ 6 มาตรการลดภาษีของรัฐบาลให้กับประชาชน 40 ล้านครัวเรือนนั้น แม้ช่วงแรกรัฐบาลจะสูญเสียรายได้ 5 หมื่นล้านบาท แต่จะทำให้มีเงินกลับคืนสู่ระบบเศรษฐกิจ 8 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.6 เท่า หรือจะทำให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 0.8% ในรูปของภาษีที่ได้จากการจับจ่ายของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้น ที่สำคัญจะขยายกลุ่มคนชนชั้นกลางอีก 20 ล้านคน เพราะมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท
รมช.คลัง กล่าวด้วยว่า พร้อมจะให้สื่อมวลชนสอบถามเกี่ยวกับเนื้องานในความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ แต่ไม่พร้อมจะให้ตรวจสอบประวัติส่วนตัวหรือประเด็นทางการเมือง เพราะหากมีประเด็นเหล่านี้มาเกี่ยวข้องจะขอถอนตัวทันที เนื่องจากไม่ต้องการให้เสียประวัติและเกียรติภูมิที่สะสมมา
"บุคคลที่ชักชวนเข้ามาดำรงตำแหน่ง คือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง และการที่ผมเข้ามารับหน้าที่นี้ ถือว่าอยู่ในงานที่เคยทำงานมาตลอดตั้งแต่สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปี 47" นายสุชาติ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--