"เจดีเพาเวอร์"เผยผลสำรวจชี้ ชาวจีนลดการใช้ยานยนต์หลังรัฐบาลประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิง

ข่าวต่างประเทศ Monday August 4, 2008 15:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้ยานยนต์ในประเทศจีนซึ่งจัดทำโดยเจดี เพาเวอร์ และ Sina.com พบว่า ราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้ผู้ขับขี่ยานยนต์ในจีนลดการขับขี่ลงและเลื่อนแผนการซื้อยานยนต์ใหม่ๆออกไปก่อน
80% ของผู้ตอบรับการสำรวจกล่าวว่า ราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นทำให้พวกเขาลดการใช้ยานพาหนะ ขณะที่ 26% ของผู้ที่วางแผนจะซื้อยานยนต์ใหม่ในปีนี้ ได้ตัดสินใจเลื่อนแผนการนั้นออกไป หลังจากรัฐบาลจีนตัดสินใจปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน 17% มาอยู่ที่ระดับ 6 หยวนต่อลิตร จากเดิมที่ระดับ 5.2 หยวนต่อลิตร เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ไมเคิล ดันเน กรรมการผู้จัดการเจดี เพาเวอร์ เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า "ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าชาวจีนลดการใช้ยานยนต์ โดยเฉพาะการขับขี่ในระยะทางไกลๆ และผู้ที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ได้เลื่อนแผนการซื้อออกไป แล้วหันมาใช้บริการขนส่งมวลชนหรือคาร์พูล เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายในการเติมน้ำมันที่แพงขึ้น"
"เราคาดว่าหลังจากทางการจีนปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินในเดือนมิ.ย.แล้ว ผู้ขับขี่ยานยนต์ในจีนจะจ่ายเงินค่าเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 12,500 หยวนต่อปี เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่ระดับ 7,716 หยวนต่อปี และระดับ 9,744 หยวนในปีที่แล้ว" ดันเนกล่าว
เจดี เพาเวอร์คาดว่า ยอดขายยานยนต์ในจีนในปี 2551 จะอยู่ที่ 5.95 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ 5.42 ล้านคัน แต่ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ในช่วงต้นปีนี้ที่ 6.2 ล้านคัน
นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังบ่งชี้ว่า 30% ของผู้ตอบรับการสำรวจซึ่งขับขี่ยานยนต์ในปัจจุบันกล่าวว่า พวกเขาวางแผนที่จะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ประหยัดพลังงาน และ 50% ของชาวจีนที่วางแผนจะซื้อรถยนต์ในปีนี้กล่าวว่า พวกเขาตั้งใจจะซื้อ"รถยนต์ที่ผลิตในญี่ปุ่น" เพราะเชื่อรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพและใช้เชื้อเพลิงน้อยกว่า ขณะที่ 90% กล่าวว่าพวกเขาคาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะพุ่งขึ้นอีกก่อนถึงปลายปีนี้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ