ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น (fed funds rate) ไว้เท่าเดิมที่ 2.00% และคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ที่ 2.25% ซึ่งเป็นมติด้วยคะแนนเสียง 10 ต่อ 1
อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เฟดเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์ซึ่งกู้ยืมโดยตรงจากเฟด ส่วนอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากการกู้ยืมระหว่างกัน
เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นไว้ที่ 2.00% นับตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา และได้ลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นรวมแล้วทั้งสิ้น 3.25% นับตั้งแต่กลางเดือนก.ย. ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวต่อไปได้ หลังจากได้รับผลกระทบจากภาวะตกต่ำของตลาดที่อยู่อาศัยและวิกฤตการณ์สินเชื่อ
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า "คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวต่อไปได้ แต่เฟดยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ประเทศอื่นๆที่พุ่งสูงขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตัวเลขเงินเฟ้อสูงขึ้นเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้"
"คณะกรรมการเฟดคาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะขยายตัวขึ้นอีกในปีนี้และปีหน้า และเงินเฟ้อยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลขเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูงมาก หนึ่งในข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่เฟดพิจารณาว่าเป็นต้นเหตุของเงินเฟ้อได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนมิ.ย. ที่เพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2548 โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้น และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7%"
"เฟดตระหนักว่าเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอลงมาก แต่ถึงกระนั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจในไตรมาสสองของปีนี้ยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและการส่งออกยังคงมีการขยายตัว อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานยังคงชะลอตัวลง และตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว เนื่องจากมีสถาบันการเงินหลายแห่งขาดสภาพคล่อง"
"เฟดประเมินว่า ภาวะตึงตัวในตลาดการเงิน ภาวะตกต่ำในตลาดที่อยู่อาศัย และราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง จะฉุดรั้งอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐต่อไปในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า นอกจากนี้ เฟดประเมินว่าแม้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญช่วงขาลง แต่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อก็ยังอยู่ในระดับสูงและเป็นสิ่งที่คณะกรรมการเฟดกังวลใจเป็นอย่างยิ่ง" แถลงการณ์ของเฟดระบุ
นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดยืนยันว่าจะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและความคืบหน้าในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด พร้อมระบุว่าเฟดจะใช้นโยบายที่จำเป็นเพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืนและควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--