เฟรดดี แมค สถาบันผู้ให้สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทขาดทุน 821 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.63 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาสสองปีนี้ มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 3 เท่า เนื่องจากบรรดาลูกหนี้ไม่สามารถหาเงินมาชำระเงินกู้ซื้อบ้านได้
ตัวเลขขาดทุนในไตรมาสล่าสุดซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. สวนทางกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีกำไร 729 ล้านดอลลาร์ หรือ 96 เซนต์ต่อหุ้น ขณะที่รายได้ในไตรมาสนี้ร่วงลงแตะ 1.69 พันล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ 2.34 พันล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์ที่ธอมสัน ไฟแนนเชียลได้สำรวจความคิดเห็นไว้คาดว่า เฟรดดี แมค จะขาดทุน 53 เซนต์ต่อหุ้น จากรายได้ที่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 2.18 พันล้านดอลลาร์
พร้อมกันนี้ บริษัทซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐเวอร์จิเนีย ได้ประกาศลดเงินปันผลต่อหุ้นสามัญลงเหลือ 5 เซนต์ จาก 25 เซนต์ เพื่อพยุงสถานะทางเงินทุน และจะขายหุ้นอย่างน้อย 5.5 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เฟรดดี แมค และ แฟนนี แม บริษัทสินเชื่อบ้านรายใหญ่สุดของสหรัฐ มีหนี้รวมกันคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของหนี้ค้างชำระทั้งหมดในตลาดกู้จำนองสหรัฐ โดยเฟรดดี แมค ระบุในแถลงการณ์ว่า ในไตรมาสสองปีนี้ บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อเป็นจำนวน 2.8 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าไตรมาสแรกสองเท่า
ริชาร์ด ไซรอน ซีอีโอของเฟรดดี แมค กำลังหาทางที่จะเพิ่มเงินทุนและฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา หลังจากที่บริษัทขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองจนเป็นผลให้เกิดภาวะขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง จนกระทั่งรัฐบาลสหรัฐต้องมอบหมายให้นายเฮนรี พอลสัน รัฐมนตรีคลัง งัดทุกมาตรการที่จำเป็นมาใช้เพื่อช่วยเหลือบริษัททั้งสองซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) ด้วยการอัดฉีดเงินทุนเข้าบริษัท และจัดหาเงินทุนเพื่อรับประกันการปล่อยสินเชื่อบ้านที่ผ่านการรีไฟแนนซ์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--