ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: น้ำมันดิบร่วงต่อเนื่อง หนุนดอลล์พุ่งเทียบเยน,ยูโร

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 7, 2008 07:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) โดยดอลลร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อเทียบเงินเยน และแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดNYMEX ร่วงลงต่อเนื่อง ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นและเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับ 109.63 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 108.29 เยน/ดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.0595 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0541 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.5412 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5456 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับ 1.9470 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9540 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.7180 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7265 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแตะระดับ 0.9086 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9161 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ อเมริกา กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งแกร่งเพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ โดยเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ร่วงลง 59 เซนต์ ปิดที่ 118.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในระหว่างวันที่ 117.25 ดอลลาร์
"นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางอังกฤษและธนาคารกลางยุโรปซึ่งจะมีขึ้นในเย็นวันพฤหัสบดี โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าธนาคารกลางอังกฤษจะตรึงดอกเบี้ยที่ 5% หลังจากมีรายงานว่า ยอดอนุมัติสินเชื่อจำนองบ้านเดือนมิ.ย.ร่วงลงแตะระดับ 36,000 ราย ซึ่งปรับตัวลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2536 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอังกฤษร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2517 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง" วูลฟอล์คกล่าว
ขณะเดียวกันมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปจะตรึงดอกเบี้ยที่ 4.25% หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อในยุโรปสูงเกินเป้าหมายของธนาคารกลาง
ค่าเงินเยนได้รับแรงกดดันจากการที่รัฐบาลญี่ปุ่นยอมรับว่าเศรษฐกิจภายในประเทศกำลังย่ำแย่และอาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งจะกดดันนายบุนเมอิ อิบูกิ รัฐมนตรีคลัง ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่ถึงสัปดาห์ โดยนายอิบูกิกล่าวเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะ stagflation (ภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงแต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น)
ส่วนดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับปัจจัยบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ย หลังจากเฟดคาดการณ์ว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะขยายตัวขึ้นอีกในปีนี้และปีหน้า ภายหลังจากทางการสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนมิ.ย. ที่เพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2548 โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้น และสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.7%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ