นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 52 จะขยายตัวได้ 5.5-6.5% ภายใต้เงื่อนไรทิศทางการเมืองนิ่ง และมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ไม่ว่าโครงสร้างพื้นฐาน ระบบชลประทาน และระบบขนส่งทางราง ที่จะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น
"การลงทุนที่มากขึ้นของภาครัฐ และการเมืองที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้นักลงทุนไทยและต่างประเทศเริ่มหันกลับมาลงทุน ประชาชนที่ชะลอการบริโภคไว้ในปีนี้จะเริ่มบริโภคมากขึ้นในปีนี้ ดังนั้นเศรษฐกิจไทยจะเริ่มกลับมามีความคึกคักได้ในปีหน้า"นายธนวรรธน์ กล่าว
อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยในปีหน้าอาจจะไม่มีความโดดเด่นมากนัก เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่อาจมีความผันผวน รวมถึงปัญหาซับไพร์มที่ยังครอบคลุมภาวะเศรษฐกิจในปี 52 ทำให้ประชากรโลกยังต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายและท่องเที่ยว ประกอบกับสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้การส่งออกปี 52 ไม่โดดเด่นมากเมื่อเทียบกับปีนี้
เพราะฉะนั้นปีหน้าเรื่องของการบริโภค การลงทุนในประเทศ และการใช้จ่ายของภาครัฐจะเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทน แต่คงจะดึงให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศในปี 52 ไม่ขยายตัวสูงเกินไปกว่า 5.5-6.5% เนื่องจากสถานการณ์ส่งออกอาจโตได้ไม่มากเท่าปีนี้
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ส่วนเงินเฟ้อปีหน้าคาดว่าจะโตในระดับ 4-5% เพราะฐานเงินเฟ้อปีนี้สูง และที่สำคัญราคาน้ำมันในปีหน้าอาจต่ำกว่าปีนี้ นอกจากนี้ปีหน้าเริ่มมีการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น รวมทั้งทั่วโลกต่างก็มีการปรับตัวเรื่องการใช้น้ำมัน
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--