นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ธนาคารกลางยุโรปจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25% ในการประชุมวันนี้ เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยุโรปน่าจะบีบบังคับให้นายฌอง-คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงในรอบ 7 ปีนานกว่านี้ หรืออาจถึงขั้นขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ถึงแม้ว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจของประเทศในทวีปยุโรปให้ซบเซาลงมากกว่านี้
ก่อนหน้านี้ นายโรเบิร์ต เรเวท ผู้จัดการเที่ยวบินของดอยช์ ลุฟท์ฮันซ่า เอจี พึ่งจะได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้น 5.1% จากสายการบิน หลังจากที่ออกมาประท้วงเรื่องค่าแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเรเวท กล่าวว่า การขึ้นค่าแรงในครั้งนี้ทำให้ตนสามารถรับมือกับเงินเฟ้อได้อย่างน้อยก็ชั่วขณะหนึ่ง เพราะด้วยสถานการณ์เงินเฟ้อที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ค่าแรงที่เพิ่มขึ้นถือเป็นเรื่องจำเป็น
อย่างไรก็ตาม เดวิด โอเว่น หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเดรสด์เนอร์ ไคลน์เวิร์ท กล่าวว่า การขึ้นค่าจ้างเพื่อรับมือเงินเฟ้อแบบนี้จะเป็นสถานการณ์ที่สร้างความกังวลให้กับธนาคารกลางยุโรป และนายทริเชต์คงจะระมัดระวังเรื่องอัตราค่าจ้างซึ่งเกี่ยวพันกับเงินเฟ้อต่อไป
กลุ่มผู้บริหารระดับนโยบายกังวลว่า ภาวะค่าจ้างและราคาสูงขึ้นเป็นลูกโซ่ (Wage-Price Spiral) จะทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น และส่งผลสืบเนื่องให้กลุ่มพนักงานเรียกร้องให้มีการจ่ายค่าแรงมากขึ้น ขณะที่บริษัทต่างๆก็จะขึ้นราคาสินค้าเพื่อชดเชยกับตัวเลขค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
ราคาน้ำมันและอาหารที่สูงขึ้นทำให้เงินเฟ้อในยุโรปอยู่ที่ระดับ 4.1% ในเดือนก.ค. ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดในรอบกว่า 16 ปี และยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลาง
ในขณะเดียวที่เศรษฐกิจซบเซานี้ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารซอคเจนคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศจะหดตัวลง 0.5% ในไตรมาส 2 เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขการขยายตัวในไตรมาสแรกที่ 0.7% และจากระดับปีที่แล้ว เศรษฐกิจยุโรปขยายตัว 2.1% ในไตรมาสแรก บลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--