เบนจามิน ฮุง ซีอีโอธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ฮ่องกง) มีมุมมองที่ค่อนข้างเป็นบวกต่อผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากการดำเนินงานของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดในเอเชียและตะวันออกกลางยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง
นายฮุงคาดว่า รายได้สุทธิจากการเรียกเก็บดอกเบี้ยในฮ่องกงจะยังคงทรงตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากธนาคารมีการปรับอัตราเงินเบี้ยเงินฝาก ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในยามที่วิกฤตการณ์สินเชื่อทั่วโลกยังไม่คลี่คลาย
ทั้งนี้ ซีอีโอสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงตรึงดอกเบี้ยต่อไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังถูกดดันจากเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจะทำให้เฟดไม่สามารถใช้นโยบายการเงินได้อย่างยืดหยุ่นอย่างที่เคยเป็น ส่วนอัตราดอกเบี้ยในฮ่องกงนั้น เขาคาดว่าจะเคลื่อนไหวไปตามอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ ตราบเท่าที่อัตราเงินกู้ในตลาดอินเตอร์แบงค์ยังคงทรงตัว
นอกจากนี้ นายฮุงกล่าวว่า สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดจะรักษาระดับการขยายตัวของธุรกิจต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากที่ธนาคารได้เปิดสาขาใหม่ๆอีก 3 แห่งและเพิ่มการจ้างงานอีก 300 อัตราในฮ่องกง โดยคาดว่าธนาคารจะจ้างงานเพิ่มอีก 300 อัตราในช่วงครึ่งปีหลัง
นายฮุงยังกล่าวด้วยว่า สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดยังไม่มีแผนที่จะออกหุ้น IPO ในตลาดหุ้นจีน เนื่องจากยังไม่มีความจำเป็นในการระดมทุนในขณะนี้ พร้อมกล่าวว่าธนาคารจะยังคงพึ่งพาการขยายธุรกิจในจีนและอินเดียต่อไป เนื่องจากตลาดอินเดียมีการขยายตัวที่รวดเร็วแม้เศรษฐกิจภายในประเทศเริ่มชะลอตัวลงก็ตาม สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--