รัฐบาลญี่ปุ่นได้ลดระดับการประเมินเศรษฐกิจโดยรวมในรายงานประจำเดือนส.ค. โดยชี้ว่าการลดระดับการประเมินครั้งล่าสุดนี้เนื่องมาจากการส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการจ้างงานที่อ่อนตัวลง ขณะที่รายงานเมื่อเดือนก.ค.ระบุว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงักลงและเคลื่อนไหวอย่างชะลอตัวในช่วงนี้
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้เปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะสั้น โดยชี้ว่าความเคลื่อนไหวที่อ่อนตัวลงนี้มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ในขณะที่แถลงการณ์ก่อนหน้านี้คาดว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะฟื้นตัวขึ้นในระดับปานกลางเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัว และการส่งออกของญี่ปุ่นกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนม.ค.2547 ที่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้ระบุคำว่า "ฟื้นตัว" ไว้ในรายงานประเมินเศรษฐกิจรายเดือน
เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น รัฐบาลได้ชี้ให้เห็นถึงท่าทีระมัดระวังปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า
รายงานของรัฐบาลในเดือนส.ค.ระบุว่า ตอนนี้ควรให้ความสนใจกับความเสี่ยงช่วงขาลงที่อาจจะเกิดขึ้นจากสถานการณ์ต่างๆในเศรษฐกิจ ตลาดหุ้น และตลาดเงินสหรัฐ รวมทั้งสถานการณ์ราคาน้ำมัน โดยการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนที่ซบเซา แนวโน้มการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวได้กลายมาเป็นปัจจัยที่ทำให้การส่งออกอ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัด และมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอย
นอกจากนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะสิ้นสุดยุคแห่งการฟื้นตัวในช่วงหลังสงครามครั้งที่ 2 แต่การที่จะระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วหรือไม่นั้น รัฐบาลจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีที่จะรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นเพื่อที่จะได้ประเมินอย่างเป็นทางการ สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--