ธปท.ระบุขึ้นดอกเบี้ยเป็นทางเดียวสกัดเงินเฟ้อ/คลัง-แบงก์กลางเห็นแย้งไม่แปลก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 7, 2008 17:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวในการสัมมนา“ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจทางเลือก..ทางรอด"ว่า ปัญหาสำคัญของเศรษฐกิจไทยในระยะนี้มีอย่างเดียวคือ อัตราเงินเฟ้อสูง ซึ่งหากปล่อยให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงนานๆ ขณะที่ประเทศอื่นๆ มีการดูแลเรื่องเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับ 2-3% ได้ ก็จะส่งผลให้ไทยไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆได้ ดังนั้นสิ่งเดียวที่จะรักษาได้คือการการขึ้นดอกเบี้ย
ภาวะที่เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ในขณะนี้ เพราะถูกกระทบจากปัจจัยนอกประเทศทั้งราคาน้ำมันแพงและเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ฉะนั้น ทุกฝ่ายจะต้องไม่สร้างปัจจัยในประเทศมาซ้ำเติมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเด็นที่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการบริโภค และการลงทุน รวมทั้งด้านการเมือง
ส่วนความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องทิศทางดอกเบี้ยนั้น นางอัจนา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่เพราะสามารถเห็นแตกต่างกันได้ แต่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ก็ได้คำนึงถึงเรื่องอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยอยู่แล้วว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งที่ผ่านมาเศรษฐกิจน่าจะรับได้ ซึ่งการวัดผลสำเร็จหรือไม่ก็ต้องใช้เวลา 4-8 ไตรมาส
ดังนั้น ถ้าหากในอนาคตเศรษฐกิจแย่ลงหลังจากที่มีการขึ้นดอกเบี้ยก็คงไม่สามารถบอกได้ว่า มาจากการขึ้นดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเศรษฐกิจประกอบด้วยหลาย ๆ ปัจจัยไม่ใช่สุญญากาศ
นางอัจนา กล่าวว่า ที่ผ่านมาทั้งกระทรวงการคลังและธปท.อาจจะออกมาให้ความเห็นในสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้วผ่านหน้าหนังสือพิมพ์มากเกินไป ประชาชนจึงมองว่าเป็นความเห็นที่ขัดแย้งกัน แต่ไม่ถือว่าแปลก เพราะทั่วโลกส่วนใหญ่ก็มีความเห็นขัดแย้งกันระหว่างนโยบายการเงินและการคลัง
แต่ในชั้นวางแผนงานต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจมหภาคจะต้องเป็นความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงการคลังกับ ธปท. ขณะที่ ตามมาตรฐานสากล ธนาคารกลางต้องมีความเป็นอิสระด้านนโยบายการเงิน
ธปท.ไม่ได้มีเหตุผลทางกฎหมายที่จะมาตั้งนโยบายเศรษฐกิจของตัวเองเป็นอิสระเพราะไม่ได้มาจากการเลือกของประชาชน ซึ่งนโยบายเศรษฐกิจจำเป็นต้องหารือกับรัฐบาลแต่ขออย่างเดียว ความเป็นอิสระในการใช้เครื่องมือนโยบายการเงิน" นางอัจนา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ