นายเหงียน วัน นัม อดีตผู้อำนวยการสถาบันการค้าในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของเวียดนาม แสดงความเห็นว่า ธนาคารกลางเวียดนามควรผลักดันให้ค่าเงินดองมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และให้เงินดองเคลื่อนไหวไปตามกลไกอัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยน
"การที่ธนาคารกลางเวียดนามยื่นมือเข้ามาควบคุมเงินดองและแบงก์พาณิชย์ภายในประเทศจะส่งผลกระทบในด้านลบต่อเศรษฐกิจของเวียดนาม ซึ่งคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางควรปล่อยให้แบงก์พาณิชย์มีอิสระในการดำเนินธุรกิจ" วัน นัมกล่าว
ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางเวียดนามอนุญาตให้เงินดองปรับตัวขึ้นได้ไม่เกิน 2% และร่วงลงได้ไม่เกิน 2% ต่อวัน นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังประกาศขึ้นดอกเบี้ยแล้ว 3 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยของเวียดนามยืนอยู่ในระดับสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อในเวียดนามพุ่งขึ้นรวดเร็วสุดในรอบ 16 ปี นอกจากนี้ เวียดนามยังเผชิญสถานการณ์ปั่นป่วนภายในประเทศ รวมถึงกรณีคนงานที่โรงงานหลายแห่งในกรุงโฮจิมินห์ก่อเหตุประท้วงหยุดงานในเดือนนี้เพื่อเรียกร้องค่าแรงเพิ่มขึ้น
"ผมกังวลว่าเหตุการณ์โกลาหลในเวียดนามจะรุนแรงขึ้นหากทางการเวียดนามยังใช้นโยบายในปัจจุบัน" วัน นัมกล่าว
ก่อนหน้านี้ มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า ค่าเงินดองจะเผชิญความเสี่ยงและมีความผันผวนมากขึ้นเนื่องจากหลายปัจจุบัย รวมถึงภาวะที่ค่าเงินดองมีมูลค่าสูงเกินไป ภาวะไร้ดุลยภาพทางเศรษฐกิจ และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--