สิงคโปร์เปิดเผยว่าสภาพเศรษฐกิจที่ขยายตัวช้าสุดในรอบ 5 ปี ส่งผลให้ภาคการส่งออกหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 กดดันให้ธนาคารกลางต้องปล่อยให้เงินดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าเพื่อกระตุ้นการส่งออก
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) มีการขยายตัว 2.1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์และรัฐบาลคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 2% และ 1.9% ตามลำดับ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสิงคโปร์ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำปี 2551 เป็นครั้งที่สอง หลังภาคการส่งออกหดตัวลงและจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศก็ลดลง ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์จะชะลอตัวลงอีกเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในเอเชีย
ด้านเงินดอลลาร์สิงคโปร์ซึ่งแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีเมื่อช่วงต้นปี กลับเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่าลงมากที่สุดในเอเชียในไตรมาสนี้ ท่ามกลางความวิตกว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอีก
"อะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว" คิต เหว่ย เจง นักเศรษฐศาสตร์จากซิตี้กรุ๊ปในสิงคโปร์ กล่าว "เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงในช่วง 12 เดือนต่อจากนี้ และอาจฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2552"
สำนักงานส่งเสริมการค้าของสิงคโปร์คาดการณ์ว่าภาคส่งออกจะหดตัวลง 2-4% ในปีนี้ จากที่เคยคาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัว 2-4% หลังจากที่ภาคการส่งออกหดตัวลงกว่า 5.5% ในไตรมาสที่แล้ว
ทั้งนี้ วิกฤติซับไพร์มในสหรัฐส่งได้ผลกระทบต่อตลาดเงิน ทำให้ความต้องการสินค้าจากเอเชียลดลง และส่งผลเสียต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียในที่สุด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--